ตลาดทองคำโลกปี 2025 มีราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ที่ระดับ 3,587 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และมีราคาสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 3,599 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2025 ผ่านไป ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งทะยานถึงกว่า 90% นับตั้งแต่ปลายปี 2022 มาถึงปัจจุบัน
ปัจจัยบวก ได้แก่ การซื้อทองคำของธนาคารกลาง ความต้องการลงทุนทองคำที่แข็งแกร่ง การลงทุนในหน่วยลงทุนทองคำ หรือโกลด์อีมีเอฟที่มีทองคำแท่งค้ำประกัน นโยบายภาษีการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา การเมืองสหรัฐอเมริกาครอบงำความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐสุทธิอ่อนค่า
เมททัลส์ โฟกัส ซึ่งเป็นบริษัทในธุรกิจปรึกษาการลงทุนชื่อดังแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำสุทธิรายปีเพิ่มมากกว่า 1,000 ตัน ในขณะที่ปี 2025 นี้ คาดว่าจะซื้อทองคำสุทธิ 900 ตัน ซึ่งคิดเป็น 2 เท่าของค่าเฉลี่ยซื้อสุทธิปีละ 457 ตันในช่วงระหว่างปี 2016-2021 ผ่านมา
นอกจากนี้ สัดส่วนของการซื้อทองคำโดยธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนมากเมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ซื้อทองคำรายอื่นๆ สะท้อนจากในระหว่างปี 2021-2025 ธนาคารกลางทั่วโลกมีความต้องการซื้อทองคำที่ 21% จากที่เคยมีเพียง 12% ในระหว่างปี 2016-2020
ขณะที่สภาทองคำโลก หรือ WGC รายงานว่า ความต้องการซื้อทองคำของธนาคารกลางในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกมีสัดส่วนที่ 34% ของความต้องการซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกในปี 2024 ที่สำคัญ ความต้องการซื้อทองคำของธนาคารกลางในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีน้ำหนักมากถึง 23% ของความต้องการทองคำรายปีในช่วงระหว่างปี 2022-2025 ทำสถิติเพิ่มขึ้น 2 เท่าของค่าเฉลี่ยในช่วงยุคทศวรรษของปี 2010 ผ่านมา