ธนาคารต่างชาติลดเป้าเศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือแค่ 2.3% นักวิเคราะห์แบงก์ญี่ปุ่น-จีน-สหรัฐ ชี้ตรงกัน ไทยลดดอกเบี้ยไม่แรงพอจะรับมือปัจจัยลบแรง คาดต้องลดมากถึง 0.75% ถึง 1% อีกในปี 69 นับเป็นธนาคารกลางที่ต้องลดดอกเบี้ยมากที่สุดในอาเซียน เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอืดช้ากว่าทุกชาติในอาเซียน

ธนาคารต่างชาติลดเป้า เศรษฐกิจไทย ปีนี้เหลือแค่ 2.3% นักวิเคราะห์แบงก์ญี่ปุ่น-จีน-สหรัฐ ชี้ตรงกัน ไทยลดดอกเบี้ยไม่แรงพอจะรับมือปัจจัยลบแรง คาดต้องลดมากถึง 0.75% ถึง 1% อีกในปี 69 นับเป็นธนาคารกลางที่ต้องลดดอกเบี้ยมากที่สุดในอาเซียน เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอืดช้ากว่าทุกชาติในอาเซียน

บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ ซึ่งเป็นหนึ่งในสายงานธุรกิจของธนาคารโนมูระที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยยังปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงไม่มากพอท่ามกลางสภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ล่าช้าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ หลังผ่านพ้นวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 เป็นต้นมานั้น ทำให้คาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกถึง 1% ภายในปี 2026 สอดรับกับธนาคารแบงค์ ออฟ อเมริกา เอ็นเอ เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.75% ภายในปี 2026 ส่งผลให้ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะที่จะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคอาเซียนด้วยกัน

ชาร์นน บุญนุช นักเศรษฐศาสตร์บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ กล่าวว่า ประเทศไทยไม่เพียงเป็นประเทศที่มีภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างล่าช้าเมื่อเปรียบเทียบกับหลังสิ้นสุดการระบาดของโรค โควิด-19 แต่ยังเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่มีภาวะเศรษฐกิจเปราะบางอย่างมากต่อนโยบายสงครามการค้า หรือนโยบายการปกป้องการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังตกอยู่ในภาวะมีความกังวลเพิ่มขึ้นอย่างมากกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่กำลังอ่อนแรงลงไปเรื่อยๆ และไปอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถจะปฏิเสธ หรือต่อต้านอย่างแข็งกร้าวกลับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นมากขึ้นเหมือนกับในช่วงที่ผ่านมา

ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียนกำลังอยู่ในภาวะเร่งด่วน ท่ามกลางสองปัจจัยหลบทางเศรษฐกิจที่มีขนาดของผลกระทบรุนแรงได้แก่นโยบายสงครามการค้าผ่านการปรับขึ้นภาษีนำเข้ายังแข็งกร้าวของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ และตลาดการท่องเที่ยวของไทยในปี 2025 นี้ ที่ไม่สามารถฟื้นตัวได้แรงมากพอที่จะชดเชยเครื่องยนต์เศรษฐกิจอื่นๆของไทย นอกจากนี้ปัญหาเศรษฐกิจพื้นฐานที่เรื้อรังได้แก่ภาวะหนี้ครัวเรือนระดับสูงถึงเกือบ 90% ที่สำคัญเป็นภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในระดับที่ปลอดภัยและยอมรับได้เมื่อเปรียบเทียบกับทั่วโลก จากตัวเลขในอดีตที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจไทยอ่อนแรงลงอย่างชัดเจนโดยมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยต่ำกว่า 2% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์หลายคนจากหลายสถาบันการเงินล้วนมีมุมมองว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงต่อเนื่องโดยเฉพาะในการประชุมในเดือนมิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตามมีมุมมองของนักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยที่ประเมินว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจตัดสินใจเหนือความคาดหมายเป็นครั้งที่สองโดยการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้หลังจากในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านไปธนาคารแห่งประเทศไทยลดอัตราดอกเบี้ยเหนือความคาดหมายจากผลสำรวจของทุกสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ

นายไค เว่ยอัง นักวิเคราะห์จากธนาคาร แบงค์ ออฟ อเมริกาเปิดเผยว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดปัจจุบันด้วยการแจกเงินสดในช่วงที่ผ่านมาและส่วนที่เหลือในอนาคตมีผลกระตุ้นเศรษฐกิจในวงจำกัด และส่งผลน้อยต่อการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศ นอกจากนี้การใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวไทยกับสินค้าคงทนในระยะยาวจะยังคงอ่อนแอลง เช่น รถยนต์ และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถึงแม้ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านไป ธนาคารแห่งประเทศไทยจะผ่อนปรนมาตรการ LTE เพียงชั่วคราวก็ตาม สาเหตุมาจากข้อจำกัดและความเข้มงวดในการพิจารณาปล่อยกู้จากสถาบันการเงินในประเทศ ดังนั้น เมื่อพิจารณารวมกับปัจจัยลบอื่นๆ ทำให้ธนาคารปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจไทยลงจาก 2.6% เหลือเพียงแค่ 2.3% ในปี 2025 นี้

ลาวันยา เวนเกตส์วรัน นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารโอเวอร์ซี ไชน่า แบงค์กิ้ง คอร์ปอเรชั่น หรือธนาคารโอซีบีซี ซึ่งเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่ชั้นนำแห่งหนึ่งในประเทศจีน เปิดเผยว่า นโยบายและมาตรการที่รัฐบาลไทยใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจปัจจุบันจะมุ่งเน้นไปในการเพิ่มกำลังซื้อในการบริโภค ซึ่งปราศจากมาตรการที่จำเป็นในการแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่ฉุดรั้ง และเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในระยะยาวอย่างยั่งยืน

ในขณะที่บลูมเบิร์ก ซึ่งเป็นสำนักข่าวด้านเศรษฐกิจการเงินการลงทุนชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่าผลกระทบจากสงครามภาษีจึงนำไปสู่สงครามการค้าของโลกอาจส่งผลให้ฉุดอัตราการขยายตัวหรือจีดีพีของเศรษฐกิจไทยในปี 2025 ถึง 0.5% ท่ามกลางตัวเลขคาดการณ์จีดีพีไทยจะขยายตัวในปีนี้ที่ระดับเกินกว่า 2.5%

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles