LINE MAN Wongnai เปิดเผยว่า ตลาดร้านกาแฟในไทยยังคงเติบโต โดยเฉพาะร้านกาแฟกลุ่ม Specialty ที่มีราคาจับต้องได้ ซึ่งมักจะมีราคาขายต่ำกว่า 100 บาทต่อหนึ่งใบเสร็จ ร้านกาแฟประเภทนี้มีสัดส่วนตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในปัจจุบันในกรุงเทพที่ขยายตัวสูงถึง 46% ในขณะที่ตามต่างจังหวัดมีการเติบโต 19% ในทางตรงกันข้าม ยอดขายของร้านอาหารในไทยปรากฏว่าลดลง 14% เมื่อเทียบกับปี 2024 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว และนักท่องเที่ยวที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม จำนวนร้านกาแฟเปิดใหม่ในครึ่งแรกของปีนี้กลับลดลงเหลือเพียงราว 5,000 ร้าน ที่สำคัญ ลดลงจากราว 7,000 ร้านในช่วงครึ่แรกของปี 2024 หรือกว่า 28% แต่เมื่อเปรียบเทียบธุรกิจร้านกาแฟกับร้านอาหารกลับพบว่า ร้านกาแฟมีอัตราการอยู่รอดในปีแรกที่เปิดกิจการสูงกว่าร้านอาหารทั่วไป ร้านกาแฟมีอัตราการปิดตัวในปีแรกอยู่ที่ 43% เทียบกับร้านอาหารทั่วไปที่ปิดตัวสูงกว่าในปีแรกถึง 50%
สำหรับร้านกาแฟในกลุ่มตลาด Specialty Coffee ในไทย มีส่วนแบ่งตลาดใหญ่กว่ากาแฟทั่วไป ทุกวันนี้ ร้านกาแฟประเภทนี้มีสัดส่วนยอดขายภาพรวมทั่วประเทศ 56% แต่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 66% สาเหตุจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ด้วยความต้องการความรวดเร็ว ช่องทางการสั่งซื้อ และชำระเงินที่หลากหลาย โดยเฉพาะช่องทางการชำระเงินดิจตอลมีสัดส่วนเกินครึ่ง และช่วยเพิ่มยอดขายต่อบิลขึ้นสูงขึ้นถึง 32% ในขณะที่การสั่งกาแฟบนดิจิตอล หรือ Digital Ordering เช่น การสั่งผ่านแผ่น QR Code ที่แปะบนโต๊ะ สามารถช่วยเพิ่มปริมาณสั่งซื้อได้ถึง 37%
ทั้งนี้ สำหรับตลาดร้านชามัทฉะในไทย พบว่าเป็นธุรกิจที่เติบโตต่อเนื่อง โดยยอดขายร้านมัทฉะเดิมเติบโตถึง 28%