ดัชนี SET Index หุ้นไทย ปิดวันนี้ที่ 1,266.67 จุด ลดลง 10.76 จุด หรือ 0.84% มูลค่าซื้อขาย 56,938.83 ล้านบาท หลังจากเคลื่อนไหวในแนวโน้มผันผวนตลอดวัน ทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,283.55 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,266.05 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.THAI ราคาปิด 17.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.70 บาท หรือ 10.56% มูลค่าซื้อขาย 7,880.38 ล้านบาท
2.BDMS ราคาปิด 21.70 บาท ลดลง 1.20 บาท หรือ 5.24% มูลค่าซื้อขาย 2,605.93 ล้านบาท
3.CPALL ราคาปิด 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.54% มูลค่าซื้อขาย 2,226.71 ล้านบาท
บล. ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงหลังจากปิดบวกในวันก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการขายทำกำไรหลังการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยผลงานส่วนใหญ่ออกมาอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าคาดการณ์ ทำให้เกิดแรงขายกดดันตลาด
ส่วนปัจจัยกดดันอื่นๆ ได้แก่ความกังวลเรื่องการเมืองในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยเฉพาะคดีความของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วันที่ 22 ส.ค. และคดีของนายกฯเเพทองธาร ชินวัตร วันที่ 29 ส.ค. รวมถึงการปรับดัชนี MSCI ซึ่งคาดว่าจะมีเงินทุนไหลออกประมาณ 200 ล้านเหรียญหรือเทียบเท่า 6,000 ล้านบาท โดยที่หุ้นการบินไทย ที่เคยเป็นจุดสนใจของตลาดเริ่มมีสัญญาณอ่อนแอ เมื่อขึ้นไปใกล้ระดับ 20 บาท ซึ่งถือเป็นแนวต้าน นายวิจิตร มองว่าหุ้นตัวนี้อาจเป็นตัวชี้วัดทิศทางของตลาดในระยะสั้น หากปรับลงมากอาจส่งผลกระทบต่อดัชนีโดยรวม
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) คาดว่าตลาดจะยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,250 จุด และหากทะลุลงไปแนวรับถัดไปคือ 1,240 จุด แนวต้านด้านบนอยู่ที่ 1,280 จุด