เว็บไซต์มาเก๊า บิสเนส (Macau Business) รายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักวิเคราะห์หลายรายว่า การที่ไทยพิจารณาเปิด กาสิโน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ประกอบกับการที่มาเก๊าไม่ค่อยมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ นอกเหนือจากกาสิโน กำลังสร้างความเสี่ยงต่ออนาคตทางเศรษฐกิจของมาเก๊าที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก
โดยในรายงานระบุว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของมาเก๊าฟื้นตัวมาอยู่ที่ 87.3% ของระดับก่อนโควิด-19 โดยอุตสาหกรรมการพนันทำรายได้ 2.0859 แสนล้านปาตากา (ประมาณ 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้น 26.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และคิดเป็น 74% ของรายได้ในช่วงเดียวกันของปี 2562 ก่อนเกิดโรคระบาด
สำหรับปี 2568 รัฐบาลมาเก๊าคาดการณ์ว่า รายได้จากการพนันจะเพิ่มขึ้นแตะ 2.4 แสนล้านปาตากา (ราว 2.97 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
คาร์ลอส ซิด อัลวาเรส ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมโปรตุเกส-จีน กล่าวว่า “กาสิโนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหาร ฟื้นตัวอย่างน่าทึ่ง” แต่ยอมรับว่า ธุรกิจขนาดเล็กที่อยู่ห่างจากพื้นที่กาสิโน “ไม่มีการเติบโต และยังคงหดตัว”
เกลนน์ แมคคาร์ตนีย์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยมาเก๊า ชี้ว่า ผู้ประกอบการกาสิโนกำลังมีลูกค้าล้นหลาม เพราะคาสิโนกลายเป็น “ข้อเสนอที่น่าดึงดูด” สำหรับนักพนันระดับไฮโรลเลอร์ (high roller) ซึ่งเคยสร้างรายได้ถึง 60% ของรายได้กาสิโนในปี 2556 แต่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการจับกุมผู้บริหารของซันซิตี้ (Suncity) บริษัทผู้ให้บริการพนันระดับวีไอพีรายใหญ่ที่สุดของโลก
ภายใต้สัมปทานกาสิโนฉบับใหม่ที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2566 ผู้ประกอบการทั้ง 6 รายให้คำมั่นว่าจะลงทุนในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพนัน “มากกว่า 1 แสนล้านปาตากา” เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยแมคคาร์ตนีย์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ เช่น การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และเศรษฐกิจกลางคืน เพื่อให้นักท่องเที่ยวพักนานขึ้นและใช้จ่ายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เบน ลี นักวิเคราะห์จากบริษัทไอเกมมิกซ์ (IGamiX) บริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรมกาสิโนระดับโลก กลับมองว่า ผู้ประกอบการกาสิโนส่วนใหญ่เลือกที่จะทุ่มงบไปกับการโปรโมทนอกประเทศจีนและกิจกรรมบันเทิงเท่านั้น โดยระบุว่า “เราไม่เห็นอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ บนพื้นที่ และถ้ามีแผนจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจริง ก็ควรเริ่มไปแล้ว … บริษัทเหล่านี้ก็ทำเหมือนที่เคยทำมา ให้คำมั่นสัญญา เก็บตัวเงียบ ๆ ทำแค่พอให้อยู่รอด แล้วก็รอ”
เบน ลี กล่าวเตือนว่า มาเก๊า ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งการพนันของโลก อาจเผชิญความท้าทายจากความเคลื่อนไหวในไทย เนื่องจากรัฐบาลไทยกำลังพิจารณาอนุญาตให้มีรีสอร์ทแบบครบวงจรที่มีพื้นที่การพนัน คล้ายกับในมาเก๊า ซึ่งจะเปิดให้ชาวต่างชาติเข้าใช้บริการด้วย
ไทยมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายที่มาเก๊าไม่สามารถแข่งขันได้ และไม่แปลกใจที่ผู้ประกอบการกาสิโนรายใหญ่ทั้ง 6 ราย ต่างแสดงความสนใจในตลาดแห่งนี้ เบน ลี กล่าวเสริม โดยมองว่า ไทยคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับตลาดการพนันในเอเชียทั้งหมด