นักเศรษฐศาสตร์ มองทองคำไทยจ่อแตะ 45,000 บาท ยังเป็นขาขึ้นยาวหากสงครามขยายวงกว้าง

นักเศรษฐศาสตร์ มอง ทองคำ ไทยจ่อแตะ 45,000 บาท ยังเป็นขาขึ้นยาวหากสงครามขยายวงกว้าง

รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์ว่าทองคำผันผวนมากทั้งปรับเพิ่มขึ้นและลดลงวันหนึ่งหลายรอบ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางยังร้อนแรง อาจทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกทดสอบระดับ 2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในเร็วๆ นี้ และในระยะต่อไปราคาทองคำอาจพุ่งแตะระดับ 45,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และเป็นขาขึ้นยาวหากสงครามขยายวงเพิ่มขึ้นอีก การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมีความไม่แน่นอนและผันผวนสูงขึ้น เศรษฐกิจสหรัฐตัวเลขการจ้างงานดี การลดดอกเบี้ยอาจชะลอลง ขณะเดียวกันดอลลาร์แข็งช่วยสกัดขาขึ้นทองคำ

ตัวเลขการจ้างงานล่าสุดโดยเฉพาะอัตราการว่างงานที่ลดลงอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐไม่ปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายนแต่อาจปรับลดเพียง 0.25% ทำให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์หรือ Dollar Index ปรับตัวสูงขึ้น ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลงเล็กน้อย ในระยะยาว ดอลลาร์ยังคงคงอ่อนค่าและเป็นขาลงยาว ส่วนทองคำเป็นขาขึ้นยาว

นอกจากนี้ ผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะส่งผลต่อนโยบายพลังงานและนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมมีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่าง พรรครีพับรีกัน กับพรรคเดโมแครต นโยบายพลังงานและนโยบายสิ่งแวดล้อม กลายมาเป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐอเมริกา การได้ใครเป็นผู้นำรัฐบาลจะส่งผลต่อระบบนิเวศทางด้านพลังงานของโลก และแนวทางการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ปัจจัยนี้จะส่งผลต่อประเด็นความมั่นคงทางด้านพลังงาน ขีดความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หากกมลา แฮริส จาก พรรคเดโมแครต ชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี จะเดินหน้าส่งเสริมพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน ส่งเสริมการใช้ยานพาหนะไฟฟ้าและส่งเสริม Supply Chain การผลิตพลังงานสะอาดภายในประเทศ เปลี่ยนผ่านระบบพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิสเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2050 ส่งเสริมการลงทุนในการจัดการคาร์บอนภายใต้ Inflation Reduction Act มีจัดสรรงบประมาณสูงถึง 369,000 ล้านดอลลาร์ลงทุนในช่วงปี 2022-2031 เพื่อเปลี่ยนผ่านระบบพลังงานทั้งหมด

ถ้าโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับรีกัน ได้เป็นผู้นำประเทศ จะสนับสนุนเชื้อเพลิงฟอสซิล ทบทวนระเบียบเกี่ยวกับการปล่อยคาร์บอนใหม่ และสร้างความไม่แน่นอนที่สหรัฐอเมริกาอาจถอนตัวออกจาก ข้อตกลง Paris Agreement ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม และการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนจากการปล่อยคาร์บอน เน้นความมั่นคงและประสิทธิภาพการใช้พลังงานฟอสซิล มากกว่าการลงทุนในพลังงานสะอาดพลังงานหมุนเวียน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผู้แทนจากพรรคการเมืองใดชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ จะไม่ส่งผลต่อจุดยืนของสหรัฐอเมริกาต่ออิหร่านและอิสราเอล และนโยบายต่างประเทศของสหรัฐต่อตะวันออกกลาง ฉะนั้น โอกาสที่สงครามจะยุติในเร็ววันจะไม่เกิดขึ้น ความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์ยังคงสร้างความผันผวนต่อราคาพลังงาน ต่อเศรษฐกิจ ต่อตลาดการเงินโลกต่อไป

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles