นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 12 มิถุนายน 2567 คาดการณ์จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อและน่าจะคงต่อไปถึงสิ้นปี 2567 เนื่องจากยังมี นโยบายการคลัง เรื่องของการเบิกจ่ายงบประมาณปี2567 และโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่รัฐบาลมีแผนจะผลักดันออกมาภายในไตรมาส4ของปีนี้ ที่กนง.น่าจะรอดูว่าจะมีแรงส่งต่อภาพรวมเศรษฐกิจขนาดไหน
นอกจากนี้ยังมีความกังวลเรื่องภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูงด้วย ดังนั้นจึงเก็บกระสุนไว้ก่อน เพื่อตั้งรับเศรษฐกิจในปี 2568 ที่อาจจะยังมีปัญหาชะลอตัวต่อเนื่องจากปี 2567 นี้ เนื่องจากยังมีปัจจัยความกังวลในการถูกปฎิเสธสินเชื่อจากธนาคารที่ยังคงอยู่ในสัดส่วนระดับสูงทั้งของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจรถยนต์ที่ยอดขายตกไปค่อนข้างมากจากการที่ธนาคารไม่ปล่อยกู้ ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าว จึงอาจจะเห็นเศรษฐกิจไทยในปีหน้ามีการชะลอ
อย่างไรก็ตามมองว่าหากกนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว จะทำให้คนชะลอการตัดสินใจในการขอกู้เงินจากแบงก์ เพราะผู้กู้ใหม่มีภาระเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้กู้เดิมซึ่งจะครบกำหนดใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ใน 2- 3 ปีแรก จะมีภาระเพิ่มขึ้น เพราะหลังจากนี้แบงก์จะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบ MRR