นายกรัฐมนตรีอินเดีย นายนเรนทรา โมดี เปิดเผยว่า รัฐบาลเห็นชอบประกาศมาตรการเก็บภาษีสินค้าเหล็ก และท่อเหล็ก เพิ่มขึ้นระหว่าง 10% ถึง 30% ที่นำเข้าจากประเทศจีน และเวียดนาม โดยมีผลบังคับใช้นาน 5 ปีจากนี้ไป สาเหตุจากรัฐบาลอินเดียต้องการที่จะปกป้อง และในเวลาเดียวกัน สนับสนุนอุตสาหกรรมและธุรกิจผลิตเหล็กของเอกชนภายในประเทศอินเดียให้สามารถแข่งขันได้ หลังจากที่สินค้าเหล็กโดยเฉพาะจากประเทศจีนที่มีราคาถูก อาจถูกนำเข้ามาในประเทศอินเดียเป็นจำนวนมากในอนาคต
ด้านรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง อินเดีย เปิดเผยว่า สินค้าประเภทท่อเหล็กเชื่อม และท่อเหล็กสเตนเลส ที่ส่งออกมาจากประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดในโลก จะถูกเก็บอัตราภาษีใหม่ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมนับตั้งแต่ปี 2024 ถึงปี 2028 ตรวจมาตรการดังกล่าวมีผลนับตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2024 เป็นต้นไป
ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของทั้งอินเดียและจีนมีความตึงเครียดมากขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งและการปะทะกันระหว่างทหารของทั้ง 2 ประเทศที่บริเวณชายแดนหิมาลายันของอินเดียเมื่อปี 2020 รัฐบาลประเทศอินเดียจึงเพิ่มระดับความเข้มข้นของมาตรการรักษาความมั่นคงของอินเดีย รวมถึงการตรวจสอบอย่างละเอียดและมาตรการกีดกันการลงทุนทุกรูปแบบของจีน รวมถึงการยกเลิกโครงการใหญ่ต่างๆ ด้วย
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกรกฎาคม ประธานาธิบดีจีน นายสี จิ้นผิง ได้พบปะหารือกับผู้นำสูงสุดคนใหม่ของเวียดนามที่กรุงปักกิ่ง สะท้อนให้เห็นถึงทั้งจีนและเวียดนามอาจกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้า อย่างไรก็ตาม ในแง่ความขัดแย้งทางนโยบายความมั่นคงระหว่างทั้ง 2 ประเทศยังคงเกิดขึ้นโดยเฉพาะการแผ่ขยายอิทธิพลทางทหารของจีนในทะเลจีนใต้ที่มีพื้นที่มาถึงอธิปไตยทางทะเลของเวียดนาม