นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 6 ประจำปี 2568 นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานด้านความมั่นคง เร่งปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติออนไลน์ โดยเฉพาะการจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางการจีน ก่อนการเดินทางเยือนประเทศจีนของนายกรัฐมนตรี
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าก่อนเวลา 12.00 น. ของวันนี้ จะมีคำสั่งย้ายข้าราชการระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือพัวพันกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ เพื่อแสดงความจริงจังในการปราบปรามปัญหานี้
ส่วนการดำเนินงานตัดสัญญาณโทรคมนาคมในพื้นที่ชายแดนยังไม่เป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะบริเวณอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ตรงข้ามเมืองปอยเปต และบริเวณอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จึงสั่งการให้ กสทช. ดำเนินการขั้นเด็ดขาดเพื่อป้องกันการใช้สัญญาณสนับสนุนกลุ่มอาชญากรรม ซึ่งในด้านมนุษยธรรม รัฐบาลไทยได้อนุญาตให้ผู้ป่วยจากประเทศเมียนมาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของไทย รวมถึงอนุญาตให้ยานพาหนะจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเติมน้ำมันได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงเดินหน้าจัดการกับเครือข่ายอิทธิพลที่สนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดสิ้นตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่ารัฐบาลกำลังเร่งสรุปมาตรการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ โดยกำหนดกรอบเวลา 15 วันและ 30 วัน สำหรับการประเมินผลในระยะที่หนึ่งและสอง โดยประสานงานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ กสทช. พร้อมกำชับให้ กสทช. ตัดสัญญาณจากอาคารที่มีพฤติกรรมเอื้อสนับสนุนขบวนการคอลเซ็นเตอร์โดยทันที และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องติดตามผลอย่างใกล้ชิด