ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 79.23 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.8% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +3.89 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +5% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 83.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.7% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +2.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.4%
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ร่วงมากถึง -2.8% และ -2.1% ตามลำดับ
สาเหตุจากมีการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจะลดน้อยลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินล่วงหน้าร่วงลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงเฝ้าติดตามตัวเลขเงินเฟ้อในสหภาพยุโรปที่จะประกาศวันศุกร์นี้ หลังจากธนาคารกลางกลุ่มยูโรโซนส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มที่จะลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงเป็นครั้งแรก เช่นเดียวกันกับในวันศุกร์นี้ที่สหรัฐจะประกาศตัวเลขรายได้การบริโภคส่วนบุคคลชาวอเมริกันเดือนเมษายน ซึ่งเป็นตัวเลขสำคัญเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อในสหรัฐ ที่จะส่งผลถึงโอกาสลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการบริโภคน้ำมันเพิ่มมากขึ้นในอนาคต และกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในประเทศไทยปรับทั้งขึ้นและลดราคาโดยมีผลในเมื่อวันนี้ 25 พฤษภาคม 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลงลิตรละ 40 สตางค์/ลิตร ในขณะที่ ขึ้นราคาดีเซลลิตรละ 50 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 5 ครั้งต่อเนื่องรวมขึ้น 2.50 บาท/ลิตร หรือ +8.35% นับตั้งแต่ 5 เมษายนเป็นต้นมา หรือในรอบ 7 สัปดาห์ โดยมีราคาขายที่ลิตรละ 32.44 บาท/ลิตร