น้ำมันดิบตลาดโลกหวนปิดขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ เข้าใกล้ 83 ดอลลาร์ ยอดขายปลีกสหรัฐต่ำกว่าคาด

น้ำมันดิบ ตลาดโลกหวนปิดขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ เข้าใกล้ 83 ดอลลาร์ ยอดขายปลีกสหรัฐต่ำกว่าคาด

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 78.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.8% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 82.86 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.5%

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่งปิดขึ้น +6% หลังจากที่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ มีราคารายสัปดาห์ลดลงถึง -7%

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.3% หลังจากตัวเลขยอดขายปลีกในเดือนมกราคมของสหรัฐลดลงมากถึง 0.8% ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ ทำให้นักลงทุนมองว่าโอกาสลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐในจังหวะเวลาเดิมยังคงเป็นไปได้ อาจไม่ชะลอการลดดอกเบี้ยตามที่กังวลกัน ขณะที่ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ ได้ปรับลดการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้ที่จะเพิ่มขึ้นโดยลดลงจากเป้าเดิมที่ 1.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาเหลือที่ 1.22 ล้านบาร์เรลต่อวัน

เศรษฐกิจอังกฤษเกิดภาวะถดถอยสมบูรณ์แบบเมื่อตัวเลขจีดีพีในไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ชะลอตัว -0.3% ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 3 ที่ชะลอตัว -0.1% เช่นเดียวกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยสมบูรณ์แบบในปี 2023

เมื่อสิ้นสุดปี 2023 พบว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดลดลงกว่า -10% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดรายปีลดลงในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา สำหรับในปี 2022 นั้น ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิด +7% สอดรับกับราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิด +10%

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles