ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 14 พฤศจิกายน 2024 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 68.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.27 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.4% ส่งผลราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +0.66 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.0% ขณะที่เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ทำสถิติราคาดำดิ่งรายวันที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปี 3 เดือน หรือตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2022 เป็นต้นมา ซึ่งในวันดังกล่าวมีราคาดำดิ่งเหวมากถึง -7.93% ส่งผลมีราคาปิดต่ำสุดในรอบ 28 วัน หรือตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา
ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 72.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.28 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.4% ส่งผลราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +0.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.96%
สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ในสหรัฐลดต่ำลงมากถึง 4.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลงเพียง 600,000 บาร์เรล ส่งผลให้สต็อกน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี หรือตั้งแต่พฤศจิกายน 2022 ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งแข็งค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ทำสถิติแข็งค่าครั้งใหม่ในรอบ 1 ปี ขณะที่สำนักพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่า ในปี 2025 จะเกิดภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดราว 1 ล้านบาร์เรล ถึงแม้ว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่องก็ตาม สาเหตุมาจากสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบมากขึ้นจากนโยบายด้านพลังงานของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เน้นการผลิตพลังงานจากฟอสซิล
กลุ่มโอเปกพลัสปรับลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2024 และปี 2025 ครั้งใหม่ ซึ่งนับเป็นการปรับลดตัวเลขดังกล่าวเป็นครั้งที่ 4 ต่อเนื่อง สำหรับในปีนี้ ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.82 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจากเดิมที่ระดับ 1.93 ล้านบาร์เรลต่อวัน สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2025 จะเพิ่มขึ้นเพียง 1.54 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจากเดิมที่ระดับ 1.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน
โอเปกพลัสลดตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวเนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดิบของประเทศจีนมีแนวโน้มลดลงจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ซบเซาต่อเนื่องไปในปี 2025 ส่งผลกลุ่มโอเปกพลัสปรับลดตัวเลขคาดการณ์ใช้น้ำมันดิบของจีนจากเดิมจะเพิ่มขึ้นวันละ 580,000 บาร์เรล ลงมาอยู่ที่เพิ่มขึ้นเพียงวันละ 480,000 บาร์เรล หรือลดลง 100,000 บาร์เรลต่อวัน ก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปกพลัสส่งสัญญาณใหม่เกี่ยวกับการชะลอปรับขึ้นกำลังการผลิตของทั้งกลุ่มในเดือนธันวาคมนี้
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ โดยขึ้นราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ -30 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาน้ำมันครั้งแรกในรอบ 10 วันผ่านมา ซึ่งขึ้นราคารวมขึ้น 70 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่สูงสุดในรอบ 9 วัน หรือตั้งแต่ 7 พฤศจิกายนผ่านมา