ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 60.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.83 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.39%
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 64.89 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.69 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.07% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แหล่งสำคัญปิด +0.6% และ +1.2% ตามลำดับ
สาเหตุจาก นักลงทุนยังคงประเมินและติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนโดยเฉพาะแนวโน้มที่จะมีการใช้ชีปนาวุธโรนโจมตีแหล่งพลังงานของประเทศรัสเซีย ถึงแม้ว่าท่าเรือขนส่งน้ำมันดิบโนโวรอสสิคในรัสเซียสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้เมื่อวันอาทิตย์ผ่านมา หลังจากต้องปิดชั่วคราวที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธโดรนของประเทศยูเครน นอกจากนี้นักลงทุนยังให้น้ำหนักความสำคัญกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับมาตรการคว่ำบาตรของโลกตะวันตกที่มีต่อรัสเซีย
กลุ่มโอเปกพลัส เปิดเผยรายงานประจำเดือนพฤศจิากายน้อยว่าในปี 2026 ภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกจะเกิดปริมาณน้ำมันดิบเกินความต้องการบริโภคเล็กน้อยถึงวันละ 20,000 บาร์เรล โดยคาดว่าความต้องการจะอยู่ที่วันละ 43 ล้านบาร์เรล รายงานดังกล่าวตรงข้ามกับรายงานในเดือนตุลาคมที่กลุ่มโอเปกพลัสคาดว่าในปี 2026 ตลาดน้ำมันดิบโลกจะเกิดภาวะขาดสมดุล โดยปริมาณน้ำมันดิบจะลดต่ำกว่าความต้องการบริโภคถึงวันละ 70,000 บาร์เรล
ในสัปดาห์ผ่านไปกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบเบาบางที่วันละ 137,000 บาร์เรลในเดือนธันวาคมนี้ และมีมติยุติการเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบเป็นการชั่วคราวในไตรมาสที่หนึ่งของปี 2026
ทั้งนี้ กบน. มีมติให้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 21 ตุลาคม เวลา 05.00 น. ราคากลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอลล์ -30 สตางค์/ลิตร ดีเซลลง -50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการปรับลดราคาน้ำมันครั้งแรกในรอบ 17 วันผ่านมา หรือนับตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม ส่งผลให้ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินมีราคาถูกสุดในรอบ 3 ปี 9 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2565 และดีเซลมีราคาขายถูกสุดในรอบ 1 ปี 5 เดือนผ่านมา