ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.1% ส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +2.54 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.7% ก่อนหน้านี้ระหว่างวันที่ 3-6 กันยายนมีราคาปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -5.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -8.17%
ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 73.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.95 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.3% ส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +2.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.89% เมื่อวันอังคารที่ 10 กันยายนผ่านมา เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี 8 เดือน หรือตั้งแต่ธันวาคม 2021 ที่ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ปิดต่ำกว่า 70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และเป็นราคาปิดต่ำสุดในรอบดังกล่าวด้วย ก่อนหน้านี้ระหว่างวันที่ 3-6 กันยายนมีราคาปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -6.46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -8.57%
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง เพิ่มขึ้น +1.4% และ +0.8% ตามลำดับ
สาเหตุจากผลกระทบจากพายุเฮอริเคนแฟรนซีน ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติลดหายลง 12% และ 16% ตามลำดับในบริเวณอ่าวเม็กซิโก ความรุนแรงในตะวันออกกลางปะทุครั้งใหม่หลังจากเกิดเหตุสังหารชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย และบาดเจ็บมากเกือบ 3,000 รายในดินแดนอิสราเอล ด้วยเครื่องรับส่งข้อความพกติดตัวหรือเพจเจอร์ที่เกิดระเบิดขึ้นพร้อมกันมากกว่าหลายร้อยเครื่อง ทำให้กลุ่มฮิสบอเลาะห์โกรธแค้น และกล่าวหาว่าเป็นการกระทำของอิสราเอล จึงประกาศว่าจะล้างแค้นและตอบโต้อิสราเอลในการกระทำครั้งนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนรอลุ้นคืนนี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% หรือ 0.5% ครั้งแรกในรอบ 4 ปี หวังกระตุ้นเศรษฐกิจและการเพิ่มบริโภคน้ำมันดิบ
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 10 กันยายน 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินลง 40 สตางค์/ลิตร และลดแก๊สโซฮอล์ลง -50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาน้ำมันครั้งแรกใน 5 วันผ่านมา และเป็นการลดราคาครั้งที่ 10 ต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม รวมลดลงสะสม -3.80 บาท/ลิตร ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่ถูกที่สุดในรอบ 7 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมผ่านมา