ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 26 พฤศจิกายน 2024 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 68.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.25% ส่งผลราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -2.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.48% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 72.81 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.27% ส่งผลราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -2.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.14% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดสำคัญปรับเพิ่มสูงขึ้น +6% นับเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่สูงที่สุดในรอบ 17 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนผ่านมา
ขณะที่เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ทำสถิติราคาดำดิ่งรายวันที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปี 3 เดือน หรือตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2022 เป็นต้นมา ซึ่งในวันดังกล่าวมีราคาดำดิ่งเหวมากถึง -7.93% ส่งผลมีราคาปิดต่ำสุดในรอบ 28 วัน หรือตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา
สาเหตุจากนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเบนจามิน เนทันยาฮู และผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮิสบอเลาะห์ในเลาบานอนเห็นชอบให้มีการหยุดยิง โดยให้มีผลในวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 24.00 น. ซึ่งตรงกับเวลา 9.00 น. ตามเวลาไทย ด้านคณะรัฐมนตรีอิสราเอลลงมติเห็นชอบกับข้อเสนอหยุดยิงดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ โดยขึ้นราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 40 สตางค์/ลิตร นับเป็นการขึ้นราคาน้ำมันครั้งที่ 2 ต่อเนื่องในรอบ 7 วันผ่านมา ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่สูงสุดในรอบ 3 เดือน หรือตั้งแต่ 23 สิงหาคมผ่านมา