ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 26 พฤศจิกายน 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 58.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.21% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 63.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.04% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ตลาดสำคัญลดลง -3%
สาเหตุจาก ปริมาณสำรองน้ำมันรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นถึง 426.9 ล้านบาร์เรลซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 55,000 บาร์เรล ด้านประธานาธิบดียูเครนเปิดเผยว่าเตรียมที่จะเดินทางไปยังทำเนียบขาวสหรัฐอเมริกาภายในสองถึงสามวันข้างหน้าเพื่อที่จะสรุปแผนหยุดจริงและสันติภาพระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนตามข้อเสนอของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีอยู่ในขณะนี้ สะท้อนให้เห็นถึงภาวะการจ้างงานที่อ่อนแอมากพอที่จะเห็นการลดดอกเบี้ยระยะสั้นได้อีก 0.25%
กลุ่มโอเปกพลัส เปิดเผยรายงานประจำเดือนพฤศจิากายน้อยว่าในปี 2026 ภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกจะเกิดปริมาณน้ำมันดิบเกินความต้องการบริโภคเล็กน้อยถึงวันละ 20,000 บาร์เรล โดยคาดว่าความต้องการจะอยู่ที่วันละ 43 ล้านบาร์เรล รายงานดังกล่าวตรงข้ามกับรายงานในเดือนตุลาคมที่กลุ่มโอเปกพลัสคาดว่าในปี 2026 ตลาดน้ำมันดิบโลกจะเกิดภาวะขาดสมดุล โดยปริมาณน้ำมันดิบจะลดต่ำกว่าความต้องการบริโภคถึงวันละ 70,000 บาร์เรล
ทั้งนี้ กบน. มีมติให้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 21 ตุลาคม เวลา 05.00 น. ราคากลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอลล์ -30 สตางค์/ลิตร ดีเซลลง -50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการปรับลดราคาน้ำมันครั้งแรกในรอบ 17 วันผ่านมา หรือนับตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม ส่งผลให้ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินมีราคาถูกสุดในรอบ 3 ปี 9 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2565 และดีเซลมีราคาขายถูกสุดในรอบ 1 ปี 5 เดือนผ่านมา
