นางสาวศุภรัตน์ อารีย์วงศ์ Executive Director กลุ่มกลยุทธ์การตลาดและผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เปิดเผยว่า การลงทุนปี 2568 นี้ ยังเต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย จากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ยังเห็นภาพการขยายตัวในบางประเทศ โดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจหลักอย่างสหรัฐอเมริกาที่มีตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจออกมาดีกว่าคาด สะท้อนถึงโครงสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อีกทั้ง อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ล่าสุดแสดงสัญญาณการชะลอตัว ทำให้มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีโอกาสเกิดได้เร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้ส่งผลบวกต่อการเติบโตด้านกำไรธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่และกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของตลาดทุนและเป็นเมกะเทรนด์ระดับโลก อีกทั้ง แนวโน้มที่เติบโตขึ้นจากการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อเสริมความยั่งยืนทางธุรกิจ
SCBAM ชี้เป้าลงทุนปี 68 ตลาดสหรัฐสุดปังตัวเลขเศรษฐกิจดีกว่าคาดชูธีม AI Spreading
และเพื่อเสริมโอกาสการลงทุนให้กับผู้ลงทุนของ SCBAM Fund Click ในช่วงเทศกาลตรุษจีน SCBAM ได้จัดแคมเปญ “โอกาสเฮงรับปีงู กับ 3 กองทุนสุดฮอต ธีม AI Spreading” โดยมอบ Points สะสมเพิ่ม 2 เท่า สำหรับทุกเงินลงทุน 1,000 บาท เมื่อลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click และระบุ Promotion Code CNY25X2 ทุกครั้งที่ลงทุน ระหว่างวันที่ 20 มกราคม 2568 ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2568
นางสาวศุภรัตน์ กล่าวว่า การลงทุนกับกลุ่มธุรกิจที่มีปัจจัยหนุนด้านการเติบโตที่ต่อเนื่องจะช่วยเสริมโอกาสให้กับนักลงทุนสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้ ซึ่ง ธีม AI Spreading เป็นหนึ่งในธีมลงทุนที่เป็นเมกะเทรนด์ที่ SCBAM แนะนำในปีนี้ ซึ่งประกอบด้วย 3 กองทุนหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ รวมถึงการเติบโตของ AI ที่ได้แรงหนุนจากอุปสงค์การขยายตัวของธุรกิจ
โดยกองทุนแรก คือ (1) กองทุน SCBUSAA หรือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส แอคทีฟ (ชนิดสะสมมูลค่า) เน้นลงทุนเชิงรุกในหุ้นบริษัทที่มั่นคงทางธุรกิจ และมีศักยภาพการเติบโตได้ต่อเนื่องตามทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Fund ? US Growth ซึ่งจะคัดเลือกหุ้น 30-50 บริษัท จากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเชิงลึกของหุ้นแบบรายตัว (Bottom-up security selection) โดยปัจจุบันกองทุน SCBUSAA เป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มกองทุนประเภท Thailand Fund US Equity ในรอบ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี (ข้อมูล Morningstar ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2567)
ถัดมากับอีก 2 กองทุน ที่มีศักยภาพเติบโตระยะยาว คือ (2) กองทุน SCBDIGI หรือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลดิจิตอล (ชนิดสะสมมูลค่า) เน้นลงทุนในธุรกิจทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล หรือที่ได้รับประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกโดยมี Digital Transformation เป็นส่วนสำคัญ โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก BNP Paribas Funds Disruptive Technology (กองทุนหลักได้รับ Morningstar 4 ดาว ประเภท EAA Fund Sector Equity Technology, 31 ธ.ค. 2567) ซึ่งมีกลยุทธ์ลงทุนแบบ Top-down และ Bottom-up บริหารพอร์ตลงทุนด้วยสไตล์ High Conviction ในหุ้น 30-50 ตัว
และ (3) กองทุน SCBROBOA หรือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลโรโบติกส์ (ชนิดสะสมมูลค่า) เน้นลงทุนหุ้นธุรกิจทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ (Robotics) เช่น หุ่นยนต์สมองกล ปัญญาประดิษฐ์ ระบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยถึง 10% ต่อปี ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2558-2568) (ที่มา: BCG) มีการบริหารเชิงรุกในหุ้นที่มีลักษณะ Pure Play ผ่าน 2 กองทุนหลัก Pictet ? Robotics (70%) และ CS (Lux) Robotics Equity (30%) โดยจะคัดเลือกหุ้นจากกลุ่มธุรกิจที่มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถ กลุ่มธุรกิจที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบอัตโนมัติ และกลุ่มธุรกิจที่นำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายประมาณ 40 ? 60 ตัว (กองทุนได้รับ Overall Rating 4 ดาว จาก Morningstar ประเภท Thailand Fund Global Technology, ณ 31 ธ.ค. 2567)