บิทคอยน์ดิ่งไม่จอด หลุด 61,000 ดอลล์ มูลค่าตลาดเงินบิทคอยน์เสียหายกว่า 7 ล้านล้าน

บิทคอยน์ ดิ่งไม่จอด หลุด 61,000 ดอลล์ มูลค่าตลาดเงินบิทคอยน์เสียหายกว่า 7 ล้านล้าน

คอยน์เมททริกซ์ (Coin Metrics) แพลตฟอร์มรายงานค่าเงินคริปโทเคอร์เรนซี รายงานว่า ค่าเงินสกุลบิทคอยน์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซี ปรากฏว่าเปิดซื้อขายในตลาดยุโรป มีราคาร่วงลงหลุดระดับ 61,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,196,000 บาทต่อบิทคอยน์ ก่อนที่จะฟื้นขึ้นมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 62,900 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,264,400 บาทต่อบิทคอยน์ ลดลง -2.5% เทียบจากราคาปิดในคืนผ่านมา

คอยน์มาร์เก็ตแคบ เปิดเผยว่า มูลค่าของทุกสกุลเงินดิจิตอลตกต่ำอย่างมากหลังจากเงินบิทคอยน์ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ส่งผลให้มูลค่าตลาดเงินบิทคอยน์เสียหายไปมากถึง 210,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 7.56 ล้านล้านบาทเมื่อถึงช่วงครึ่งวันนี้ 20 มีนาคม 2024 สอดรับกับมูลค่าตลาดเงินคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดดำดิ่งรุนแรงถึง 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 14.4 ล้านล้านบาท

ขณะที่ในคืนผ่านมา 19 มีนาคม 2024 เงินบิทคอยน์ มีราคาร่วงลงหลุดระดับ 63,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,268,000 บาทต่อบิทคอยน์ ซึ่งถูกกระหน่ำเทจายหนักถึงกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 360,000 บาทในคืนผ่านมา ส่งผลระดับต่ำสุดลงมาอยู่ที่ 62,320.30 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,243,530 บาทต่อบิทคอยน์ นั่นหมายถึงเงินบิทคอยน์มีราคาดำดิ่งมากถึง 11,449 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 412,464 บาทต่อบิทคอยน์ หรือดิ่งลง -15.52% จากสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ราคา 73,769 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,655,685 บาท เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มีนาคมเมื่อสัปดาห์ผ่านไป

ขณะที่เมื่อวันที่ 15 มีนาคมผ่านมา เงินบิทคอยน์มีราคาตกต่ำลงในตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ โดยถูกเทขายลงมาปิดที่ระดับ 68,549 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,467,764 บาทต่อบิทคอยน์ ลดลงมากถึง -6.3% ภายใน 24 ชั่วโมงผ่านมา หลังจากในช่วง 7 วันผ่านมา เงินบิทคอยน์ปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ถึง 5 ครั้ง โดยมีราคาสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ 73,769 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,655,685 บาท

สาเหตุจากสำนักวิจัยบิทเม็กซ์ เปิดเผยว่า นักลงทุนแห่เทขายหน่วยลงทุนในกองทุนอีทีเอฟบิทคอยน์มากถึง 154.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5,558 ล้านบาท ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เงินลงทุนไหลออกตั้งแต่ก.ล.ต.สหรัฐ อนุมัติให้กองทุนดังกล่าวซื้อขายเงินบิทคอยน์ได้ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2024 และเป็นครั้งแรกที่เงินไหลออกสุทธิตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมผ่านมา นอกจากนี้ กองทรัสต์มีชื่อว่า เกรย์สเกล บิทคอยน์ ทรัสต์ พบว่ามีเงินไหลออกมากถึง 642.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 23,130 ล้านบาท

นักลงทุนเริ่มทำกำไรต่อเนื่องหลังจากเงินบิทคอยน์ทะยานสูงขึ้นถึง 70% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ นอกจากนี้ ภาวะการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงสูงอื่นๆ ได้แก่ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ แมัจะปิดสูงขึ้นเป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง แต่มีความเสี่ยงจากโอกาสลดดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอาจไม่เป็นไปตามช่วงเวลาที่ประเมินกันไว้ในเดือนมิถุนายนนี้ ภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐมีความไม่แน่นอนสูงที่จะลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตสินค้าเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มสูงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคเดือนเดียวกันที่เพิ่มสูงแต่ไม่มากเกินไป

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านไป นักวิเคราะห์ในวงการตลาดเงินบิทคอยน์ มองว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะปรับฐานของราคาเงินบิทคอยน์ในรอบนี้ ซึ่งมองราคาลงต่ำสุดที่ 63,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,268,000 บาทต่อบิทคอยน์ ซึ่งในที่สุดก็เกิดขึ้นในคืนผ่านมา

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles