บีวายดี (BYD) ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าชื่อดังระดับโลกจากจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งรถไฟฟ้า 100% และรถไฟฟ้าไฮบริดแบบพลักอิน (Plug-in) เปิดเผยว่า ยอดขายสิ้นสุดไตรมาสที่ 4 ปีผ่านไป สามารถทำได้ 526,409 คัน ประกอบด้วยทั้งรถไฟฟ้า 100% หรือบีอีวีจำนวน 190,754 คัน และรถไฮบริดพลักอินจำนวน 340,178 คัน และอื่นๆ ส่งผลให้ตลอดทั้งปี 2023 ผ่านไปนั้น บีวายดีมียอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกสะสมถึง 3.01 ล้านคัน ทำสถิติยอดขายแตะ 3 ล้านคันเป็นครั้งแรกและในประวัติศาสตร์ของบีวายดี
ที่สำคัญ ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าบีวายดีในปี 2023 ยังทำสถิติเป็นครั้งแรกที่มียอดขายติดใน 10 อันดับแรกทั่วโลก โดยขึ้นมาอยู่อันดับที่ 9 ของโลก นอกจากนี้ ยังเป็นค่ายรถยนต์และแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนเพียงแบรนด์เดียวที่ติดใน 10 อันดับแรกยอดขายมากที่สุดในโลกด้วย และในปี 2023 ทำให้บีวายดีกลายเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของโลกในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
สำหรับยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของบีวายดีทั้งปี 2023 ที่มีจำนวนสะสม 3.01 ล้านคันนั้น พบว่าไม่เพียงเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ตั้งแต่ต้นปีผ่านมาเท่านั้น แต่ยังมียอดขายทั้งหมดในปีเดียวที่เฉียดยอดขายรวมทั้งรถประเภทไฟฟ้า 100% และไฮบริดพลักอินรวมกันใน 5 ปีผ่านมาด้วย
สาเหตุที่บีวายดีสามารถทำยอดขายในไตรมาสที่ 4 ได้เกินกว่า 500,000 คัน เป็นผลจากการใช้กลยุทธ์การตลาดด้านราคาด้วยการลดราคาขายช่วงส่งท้ายปลายปี หลังจากคู่แข่งสำคัญอย่างเทสลา แบรนด์รถไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกาใช้กลยุทธ์ลดราคาอย่างเข้มข้นในช่วงเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ในด้านราคาหุ้นของบริษัทบีวายดีที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงนั้น ปรากฏว่านักลงทุนเทขายหุ้นบีวายดีอย่างต่อเนื่องในปีผ่านมา ส่งผลราคาหุ้นบีวายดีตกต่ำมากเกือบ -24% ในปี 2023 โดยเฉพาะนักลงทุนเริ่มขายหุ้นอย่างหนาตานับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2023 หลังจากบีวายดีประกาศกลยุทธ์ลดราคาขายรถบีวายดี ความกังวลของนักลงทุนที่ประเมินว่าบีวายดีอาจไม่สามารถทำยอดขายได้ตามที่ประกาศไว้ที่ 3 ล้านคันถ้วน รวมถึงตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่แข่งขันกันรุนแรงทั้งในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่และในต่างประเทศ ในทางตรงกันข้าม ราคาหุ้นของบริษัทเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น แบรนด์รถไฟฟ้าชื่อดังในสหรัฐอเมริกากลับมีราคาพุ่งทะยานสูงถึง +130% ในปีผ่านไป ท่ามกลางยอดขายรถไฟฟ้าเทสลามาเป็นอันดับ 2 ของโลก
บีวายดียังคงใช้กลยุทธ์ขยายตลาดเชิงรุกต่อเนื่อง ในปี 2023 ได้ประกาศลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ประเทศฮังการี ซึ่งเป็นโรงงานบีวายดีแห่งแรกในภูมิภาคยุโรป โดยเตรียมผลิตทั้งรถไฟฟ้า 100% และรถไฟฟ้าไฮบริดพลักอิน ตั้งเป้าหมายทำตลาดในยุโรป ท่ามกลางคณะกรรมาธิการกลุ่มสหภาพยุโรปทำการสอบสวนการทุ่มตลาดของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ในตลาดรถยนต์ของยุโรป
โกลบอลดาต้า เปิดเผยการจัดอันดับผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายมากที่สุดใน 10 อันดับแรกของโลกประจำปี 2023 พบว่า อันดับ 1 โตโยต้า 10.65 ล้านคัน อันดับ 2 โฟล์คสวาเก้น 8.80 ล้านคัน อันดับ 3 ฮุนไดกรุ๊ป 6.89 ล้านคัน อันดับ 4 สเทลเลนทิส 6.40 ล้านคัน อันดับ 5 เรโนลท์-นิสสัน-มิตซูบิชิ 6.28 ล้านคัน
อันดับ 6 เจนเนอรัล มอเตอร์ 4.87 ล้านคัน อันดับ 7 ฮอนด้า 3.97 ล้านคัน อันดับ 8 ฟอร์ด มอเตอร์ 3.95 ล้านคัน อันดับ 9 บีวายดี 3.01 ล้านคัน และอันดับ 10 ซูซูกิ 3.00 ล้านคัน
ทั้งนี้ สมาคมรถยนต์ส่วนบุคคลแห่งชาติ จีนแผ่นดินใหญ่ หรือ PCA เปิดเผยว่า คาดการณ์ปี 2023 จำนวนรถยนต์พลังงานใหม่ หรือ New Engergy ในจีนแผ่นดินใหญ่จะมีมากถึง 7.75 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 36.5% เมื่อเทียบกับปี 2022
