ปธ.กมธ.ต่างประเทศ หนุน รัฐบาล ยื่นฟ้องศาลโลก ปมกัมพูชาก่ออาชญากรรมสงคราม

ปธ.กมธ.ต่างประเทศ หนุน รัฐบาล ยื่นฟ้องศาลโลก ปมกัมพูชาก่ออาชญากรรมสงคราม

น.ส. สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าการประชุมกมธ. วันนี้ (31 ก.ค.) ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ​ หน่วยงานความมั่นคง มาให้ข้อมูลว่าต่อจากนี้จะทำอย่างไรให้สถานการณ์คลี่คลายรวดเร็วที่สุดและเกิดความเสียหายน้อยที่สุด รวมถึงติดตามสถานการณ์ปัจจุบันของความสัมพันธ์ระหว่างไทย กับกัมพูชา และจะสอบถามถึงสถานการณ์ตามบริเวณชายแดนในปัจจุบันว่าหลังจากหยุดยิงแล้วการปะทะ หรือการปฏิสัมพันธ์ของฝ่ายทหารเป็นอย่างไร และอยากสอบถามผู้ว่าราชการ 4 จังหวัด คือ อุบลราชธานี สุรินทร์ ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ ในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน รวมถึงตัวแทนกองทัพภาคที่ 2 ที่จะมาให้ข้อมูล ซึ่งกมธ.อยากทราบว่าการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน

ส่วนการที่หลายฝ่ายเสนอให้มีการฟ้องผู้นำกัมพูชาต่องศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) กรณีอาชญากรรมสงคราม นั้นมองว่าทำได้ แต่ยังไม่ถึงเวลา ถ้าจะดำเนินการในเรื่องนี้ต้องมีหลักฐานเพียงพอ แต่เท่าที่ดูเขาก็มีคดีอื่นๆที่ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกอยู่แล้ว ดังนั้นต้องวางเป้าให้ดี

“จากสถานการณ์ขณะนี้เราต้องการอะไร ต้องการที่จะหยุดความรุนแรงเพื่อเจรจาต่อ หรือพยายามที่จะกำจัดบุคคลหรือครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งให้ออกไปจากซีน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาและสู้กันอีกนานเป็นปีๆ ดังนั้นสิ่งสำคัญเป้าหมายหลัก คือหยุดรบก่อน เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติสุขและปลอดภัย เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะเป็นตัวกลางเจรจาในรายละเอียด ส่วนเกมการเมืองระดับภูมิภาคต้องจับตาดูเพราะมีการเคลื่อนไหวทั้งจากจีน และสหรัฐอเมริกาที่มีนัยสำคัญ” 

ทั้งนี้ เป็นเวลาของประเทศไทยที่จะต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ๆ ที่จะต้องพิจารณาดีๆว่าเราจะวางจุดไหน อยู่มิติไหน ให้เหมาะสมและเสียหายน้อยที่สุด แต่ไม่ใช่การเลือกฝักฝ่าย เพราะขณะนี้การค้าก็ถูกกดดันเรื่องภาษี ทำให้ทราบเจตนารมณ์ของสหรัฐว่าต้องการกดดันเราผ่านกรอบอะไรบ้าง เป็นที่น่ากังวลเพราะท้ายที่สุดแล้วกลายเป็นประเทศไทยที่ถูกกดดัน ซึ่งเป็นเกมของใครเราต้องมานั่งคุยกันอีกที

ส่วนกรณีหลังจากมีข้อตกลงหยุดยิงแล้วแต่ยังเกิดการปะทะจากฝ่ายกัมพูชา นานาประเทศมองอย่างไร ประธานกมธ.การต่างประเทศ กล่าวว่า เขารับฟัง ซึ่งหลายๆประเทศโดยเฉพาะโซนยุโรป ที่ไม่ได้มีส่วนได้เสียโดยตรงจากเรื่องนี้ ดังนั้น จุดยืนของเขาจึงสนับสนุนให้ทั้ง 2 ฝ่ายยับยั้งชั่งใจ ซึ่งทางเรายืนยันชัดเจนว่าเรายับยั้งชั่งใจมาตลอด และถ้าไม่จำเป็นเราไม่ได้เลือกที่จะปะทะ แต่เราปกป้องตัวเองเท่าที่จำเป็น

“จนถึงขณะนี้ ยังไม่ปรากฏภาพข่าวของชาวกัมพูชาได้รับความเสียหายหรือเสียชีวิต แต่ในทางกลับกันประเทศไทยไม่ได้คาดการณ์ หรือคาดคิดว่าความรุนแรงจะทวีความรุนแรงได้รวดเร็วทำให้เกิดความเสียหายขนาดนี้ ซึ่งเราคิดว่าเป็นความเสียหายที่ประชาคมโลกมีความจำเป็นที่จะต้องแสดงจุดยืน เพราะเป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชนพลเรือนที่ไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมกับสิ่งที่เกิดขึ้น”

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles