นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด กล่าวว่าเฟดไม่มีความจำเป็นที่จะเร่งรีบที่จะต้องปรับนโยบายการเงินหรืออัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันมีความเหมาะสมดีกับปัจจัยความท้าทายในขณะนี้ เมื่อมองออกไปจะมีความเสี่ยงหลายอย่าง หากลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเชิงรุกเกินไป เฟดรู้ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยที่เร็วเกินไป หรือลดมากจนเกินไป อาจเป็นอุปสรรคต่อความคืบหน้าของการลดต่ำลงของอัตราเงินเฟ้อ
คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25 ถึง 4.5% เท่าเดิม ส่งผลเป็นการตึงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นครั้งแรกในรอบปี 2025 นี้ และเป็นครั้งแรกใน 4 เดือนผ่านมา หรือนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 หลังจากได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลงถึงสามครั้งต่อเนื่องรวมลดลง 1.0% ในปี 2024 ผ่านมา
ในขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด แถลงว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังคงรักษาการขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ภาวะการว่างงานยังคงทรงตัวในระดับต่ำในช่วงหลายเดือนผ่านมา และสภาวะตลาดการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง ในการพิจารณาขอบเขตและระยะเวลาเพื่อปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน เพื่อเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้นั้น คณะกรรมการนโยบายการเงินจะมีการประเมินข้อมูลในอนาคตด้วยความรอบคอบ มุมมองที่มีพัฒนาการเปลี่ยนไป และภาวะสมดุลของความเสี่ยงทั้งหลาย
ทั้งนี้ ตัวชี้วัดแนวโน้ม อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟด หรือซีเอ็มอี พบว่ามีโอกาส 61% ที่เฟสจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 รอบ รอบละ 0.25% ภายในปี 2025 นี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอาจลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.9% ภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงแนวโน้มในการตรึงอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจใช้ระยะเวลายาวนานจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2025