ประธานหอการค้า หวั่นสินค้าต่างประเทศเข้ามาทุ่มตลาด รับมือผลกระทบนโยบายการค้าสหรัฐ แนะถอดบทเรียนเม็กซิโก แคนาดามีมาตรการตอบโต้เร็ว

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าได้มีการหารือ และส่งสัญญาณไปยังรัฐบาล ถึงการเตรียมความพร้อมมาตรการในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ ขณะเดียวกัน นโยบายการค้าเชิงรุกของสหรัฐฯ และมาตรการกีดกันสินค้านำเข้าของสหรัฐ จะทำให้หลายประเทศต้องหันมาพึ่งพาตลาดใหม่โดยเฉพาะอาเซียนและไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตรและอาหาร เป็นต้น

ดังนั้น เพื่อป้องกันผลกระทบดังกล่าว หอการค้าฯ จึงเสนอให้รัฐบาลดำเนินมาตรการควบคุมและกวดขันการนำเข้าสินค้าอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่อาจไม่ได้คุณภาพ หรือสินค้าที่มีราคาถูกจนส่งผลต่อการแข่งขันที่เป็นธรรม (Free and Fair Trade) ภาครัฐควรมีการตรวจสอบมาตรฐานสินค้านำเข้าอย่างละเอียดก่อนอนุญาตให้เข้าสู่ตลาดไทย โดยกำหนดให้สินค้าบางประเภทต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อป้องกันการปลอมแปลงหรือหลบเลี่ยงภาษี

ในส่วนของสินค้าที่ทะลักเข้ามาแล้ว รัฐบาลต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการกวดขันเรื่องการลักลอบนำเข้าสินค้าโดยไม่เสียภาษี การตรวจสอบการใช้ราคาต่ำผิดปกติเพื่อทำลายการแข่งขัน รวมถึงการป้องกันการทุ่มตลาด (Dumping) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจภายในประเทศอย่างรุนแรง นอกจากนี้ ควรพิจารณาการออกกฎหมายหรือมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม โดยอาจกำหนดมาตรการปกป้องธุรกิจภายในประเทศจากการทุ่มตลาดของสินค้าต่างชาติ และทบทวนกฎหมายด้านการแข่งขันทางการค้าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากนี้ หอการค้ายังได้ถอดบทเรียนจากการประกาศที่อเมริกาประกาศภาษีศุลกากรต่อเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% แม้ทั้งสองประเทศเป็นพันธมิตรและคู่ค้าใหญ่มากของสหรัฐฯ แต่สังเกตความฉับไวของการตัดสินใจของทั้งสองประเทศต่อรองซื้อเวลาได้อีกหนึ่งเดือน และเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ภาษีนำเข้า 25% ถูกบังคับใช้เป็นทางการ ทั้งสองประเทศก็สามารถใช้ทีมพิเศษตอบโต้และต่อรองได้คล่องตัว จนมีข่าวว่าทำเนียบขาวส่งสัญญาณจะพบกันกับเม็กซิโกและแคนาดาที่ครึ่งทาง

พร้อมกันนี้ ไทยก็ควรให้ความสำคัญกับการดูแลอัตราค่าเงินบาทและอัตราแลกเปลี่ยนด้วย เนื่องจากหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ อาจมีการใช้กลยุทธ์ในการ “บริหารค่าเงิน” ของตนเพื่อลดผลกระทบจากภาษี และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ดังนั้น เราจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และไม่ควรมองข้ามประเด็นปัจจัยด้านการเปลี่ยนแปลงค่าเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles