นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าน่าจะไม่ถึง 3% คาดอยู่ที่ 2.6-2.7% จากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น โดยประเมินว่าในไตรมาส 4 ของปี 2567 ทุกอย่างจะมีความเชื่อมั่นกลับมา และมีกิจกรรมต่าง ๆ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเยียวยา เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดี ขณะที่ช่วงที่เหลือ 2 เดือนหลังจากนี้ มองว่าเศรษฐกิจได้รับแรงขับเคลื่อนจากการแจกเงิน 10,000 บาท
ทั้งนี้ กกร.เห็นว่าควรจะผลักดันต่อ โดยเสนอรัฐบาลควรมีคูณสอง คล้ายกับคนละครึ่ง จากนั้นเป็นมาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt กระตุ้นการจับจ่ายของคนมีรายได้ในช่วงปลายปีนี้ เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ส่งเสริมที่ดี และกระตุ้นการบริโภคประชาชน รวมทั้งเสนอรัฐบาลช่วยกลุ่มเปราะบาง คนเดือดร้อน โดยเฉพาะหากคนใช้รถกระบะทำมาหากิน แต่ถูกยึดรถไป ทำให้กลุ่มนี้เดือดร้อน ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
สำหรับในปี 2568 สิ่งที่สำคัญที่สุด คือต้องทำให้รัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นกับประเทศต่างๆ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมรัฐบาลและธุรกิจให้ก้าวต่อไปข้างหน้า โดยต้องติดตามการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.นี้ มองว่าประเทศไทยต้องเป็นมิตร ไทยต้องวางตัวเป็นกลางและมีเสน่ห์หลายเรื่อง โดยเฉพาะการเข้าเป็นสมาชิกทั้ง OECD และ Brics รวมทั้งต้องแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบที่ล้าสมัยล้าหลัง เพื่อกระตุ้นให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
“ไทยจะต้องสร้างคนให้มีความพร้อมและเตรียมพร้อมเรื่องเทคโลยี รวมทั้งต้นทุนราคาไฟฟ้าที่ต้องสามารถแข่งขันกันได้ เช่น ค่าไฟเวียดนาม 2-3 บาทต่อหน่วย แต่ค่าไฟของไทยกว่า 4 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะทำอย่างไรให้เกิดการลงทุนในไทย ขณะที่ไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย ข้อได้เปรียบของไทยคือการมี Wellness โดยในปี 2568 ยังมีหลายเรื่องที่ต้องทำร่วมกัน และหากรัฐบาลมีเสถียรภาพ ในส่วนเงินเฟ้อแตะ 2% มีมาตรการที่ไม่ใช่แค่เยียวยา เชื่อว่าจะทำให้รายได้ประชาชนสูงขึ้น จีดีพีไม่ต่ำกว่า 3.5% หรืออาจ 4% ในปี 2568 ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่าพอใจ”