นายพิชิต จันทรเสรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส หรือ K-CAR (เค-คาร์) เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาพรวมของตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยที่ค่อนข้างมีปัญหา ทั้งกำลังซื้อและโครงสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่เปลี่ยนไป จากการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งกำลังส่งผลต่อภาพรวมการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ
โดยปัจจุบันเห็นได้ชัดว่า กำลังซื้อผู้บริโภคหายไป ขณะที่เกณฑ์ติดตามลูกหนี้ก็เข้มงวดเกินไป เช่น กำหนดให้ไฟแนนซ์ติดตามได้วันละครั้ง เสาร์-อาทิตย์ ติดตามไม่ได้ ข้อกำหนดที่ให้ลูกค้าคืนรถได้โดยไม่มีค่าปรับ แถมฟ้องไม่ได้ ทำให้ไฟแนนซ์ตั้งการ์ดสูง จนไม่กล้าปล่อยสินเชื่อ เพราะกังวลหนี้เสียที่จะเกิดขึ้น ส่งผลให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อรถใหม่ ที่พุ่งไปที่ 20% แล้ว ส่วนรถยนต์ใช้แล้วสูงถึง 40% ส่งผลยอดขายรถ 4 เดือนแรก ทำได้แค่ 210,494 คัน ลดลงถึง 23.90% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA กล่าวว่า หากดูภาพรวมของอสังหาฯ จากการสำรวจในตลาด พบว่า การโอนอสังหาริมทรัพย์แย่ที่สุดในรอบ 6 ปี ในทุกเซกต์เม้นต์ ทุกระดับราคา แม้ผู้ประกอบการจะเปิดโครงการน้อยลงเพื่อชะลอผลกระทบก็ตาม ส่งผลให้ยอดอสังหาฯ ค้างสต็อกมีจำนวนมากขึ้น เช่นเดียวกันยอดปฏิเสธสินเชื่อที่พบว่าระดับราคาต่ำ มียอดปฏิเสธสูงราว 60-70% เช่น ขายบ้าน 100 หลังขายได้เพียง 40 หลังเท่านั้น ขณะที่อีก 70 แห่ง บริษัทต้องนำกลับมาทำการตลาด และขายใหม่ ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมาก
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อไปว่า ไม่เพียงบ้านราคาถูกๆ เท่านั้นที่โดนปฏิเสธสินเชื่อ แม้แต่บ้านราคาสูงขึ้นราคาเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไปเจอปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน แม้กลุ่มนี้จะไม่ใช่กลุ่มลูกค้าหลักของเสนาก็ตาม ปัจจุบันนี้ พบยอดปฏิเสธเพิ่มขึ้นจาก 10-20% เป็น 20-30% แม้สัดส่วนการปฏิเสธสินเชื่อจะต่ำ หากเทียบกับราคาบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาท แต่ก็ถือว่าเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมองว่าตลาดกลุ่มบนเป็นตลาดที่เซ็นซิทีฟ และค่อนข้างโอเวอร์ซัพพลายได้ง่าย