สถาบันวิจัยไอเอสอึเอเอส ยูซอฟ-ไอแชค(ISEAS Yusof-Ishak) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยนโยบายด้านเศรษฐกิจ และการเมืองระดับภูมิภาคเอเชียชื่อดังในสิงค์โปร์ เปิดเผยผลสำรวจประจำปี 2024 พบว่า ประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน มีความไว้วางใจเชื่อถือประเทศญี่ปุ่นที่ระดับ 58.9% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในปี 2023 ที่ระดับ 54.5% ที่สำคัญ ประเทศสมาชิกในอาเซียนมีความไว้วางใจเชื่อถือญี่ปุ่นสูงกว่าจีน อินเดีย สหรัฐ และสหภาพยุโรป สาเหตุจากประเทศญี่ปุ่นเป็นชาติที่ให้เกียรติ ให้ความเกรงใจ และมีรูปแบบการติดต่อเจรจาที่ถ่อมตน ที่สำคัญประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับนโยบายการร่วมสร้างความสัมพันธ์ในอนาคตด้วยกันกับชาติอาเซียน
ระดับความไว้วางใจเชื่อถือของอาเซียนที่มีต่อสหรัฐอเมริกาและจีนอยู่ในระดับตกต่ำมากเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น ที่น่าสนใจมาก พบว่า ประเทศจีนได้รับสัดส่วนหรือระดับความไม่ไว้วางใจ หรือไม่เชื่อถือสูงที่สุดใน 5 ประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียน โดยมีระดับความไว้วางใจเชื่อถือเพียงแค่ 50.1% ทั้งๆ ที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามครั้งนี้ มองว่าอาจจะชื่นชอบจีนมากกว่าสหรัฐอเมริกาบนเงื่อนไขที่ว่าถ้าต้องบังคับให้เลือกระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา
นายแดนนี่ โกว์ คณะบดีสำนักศึกษานโยบายสาธารณะลีกวยู แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงค์โปร์ หรือ NUS กล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ที่ชัดเจนและมีต่อชาติอาเซียน รวมถึงสถานะเศรษฐกิจก็ฟื้นตัวชัดเจน และมีเสถียรภาพมาอย่างยาวนาน ที่สำคัญญี่ปุ่นแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังสิ้นสุดสงครามกับประเทศในอาเซียนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามด้วยการให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนผ่านความช่วยเหลือในการพัฒนาอย่างเป็นทางการ และการลงทุนของภาคเอกชนชั้นนำขนาดใหญ่
ผลสำรวจดังกล่าว ยังพบว่าชาติอาเซียนให้น้ำหนักถึง 30.4% กับประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางการพักผ่อนในวันหยุดที่ชื่นชอบมากที่สุด และ 17.1% ให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศมากอันดับ 2 สำหรับเป็นประเทศที่เหมาะกับการทำงาน อย่างไรก็ตาม บทบาทประเทศญี่ปุ่นกลับลดน้อยถอยลงในด้านเศรษฐกิจการค้ากับอาเซียน ในปี 1990 ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดกับอาเซียน โดยมีสัดส่วนการค้ามากถึง 21% กับอาเซียน แต่ในปี 2022 สัดส่วนดังกล่าวลดเหลือเพียง 7% กับชาติอาเซียน ซึ่งตามหลังจีนที่มีการค้ากับอาเซียนเพิ่มเป็น 19% สหรัฐมี 11% และสหภาพยุโรปมี 8% นอกจากนี้ 33.2% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ลดความมั่นใจต่อญี่ปุ่น มองว่า ญี่ปุ่นไม่มีความสามารถ หรือความตั้งใจทางการเมืองระหว่างประเทศสำหรับการก้าวขึ้นเป็นผู้นำโลก
สำหรับสหรัฐนั้น ประเทศในอาเซียนที่มีประชาชนนับถือศาสนาอิสลามและคนมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน พบว่ามีระดับความไว้วางใจเชื่อถือลดต่ำลงต่อสหรัฐอเมริกาจากกรณีนโยบายการทูตระหว่างประเทศและการสนับสนุนกำลังทหารที่มีต่อประเทศอิสราเอลในการทำสงครามกับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซามาเป็นเวลากว่า 6 เดือน
ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าวทำการสอบถามความคิดเห็นและมุมมองจากทั้งหมด 1,994 คนทั้งจากภาคเอกชนและภาครัฐ ภาคการศึกษา สถาบันอิสระ ที่อยู่ในทุกประเทศของอาเซียน
