นางสเตลล่า หลี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บีวายดี (BYD) กล่าวให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก สำนักข่าวเศรษฐกิจชื่อดังระดับโลก ว่า การแข่งขันหนักอย่างรุนแรงมากๆ สงครามราคารถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไม่ได้เป็นความยั่งยืน การควบรวมข้ามกลุ่มอุตสาหกรรมดูเหมือนจะมีขึ้นแน่ เพราะตลาดอิ่มตัว บีวายดียังคงมีแผนการลงทุนเชิงรุกนอกประเทศจีนอย่างเข้มข้นแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเน้นในยุโรป ด้วยการคาดการณ์ว่าจะทุ่มเงินลงทุนราว 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 660,000 ล้านบาทในยุโรปภายในไม่กี่ปีข้างหน้า
บีวายดี ไม่มีแผนเฉพาะหน้า หรือเร่งรีบที่จะร่วมมือกับพันธมิตรค่ายรถยนต์ในยุโรป ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับค่ายรถสัญชาติจีนรายอื่น เช่น เอ็กซ์เผิง หรือลีพมอเตอร์ ที่จะร่วมลงทุนกับค่ายรถยนต์ในท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม บีวายดีไม่ได้ปิดกั้นโอกาส หรือความเป็นไปได้ ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่บีวายดีจะทำอะไรสักอย่างลงไป บีวายดีจะระดมสรรพกำลังทุกอย่างมาสนับสนุน บีวายดีต้องการให้แน่ใจว่า นั่นคือความสำเร็จในระยะยาว
ในช่วงที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าสงครามลดราคาขายรถครั้งใหญ่ในประเทศจีน ได้รับการจุดพลุจากค่ายรถบีวายดี ส่งผลให้นักลงทุนที่ถือหุ้นของบริษัทบีวายดีพากันเทขายอย่างหนาตา ทำให้มูลค่าบริษัทบีวายดีเสียหายมากถึง 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 726,000 ล้านบาท เมื่อเทียบจากราคาหุ้นบริษัทบีวายดีที่ขึ้นไปสูงสุดเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมผ่านมา
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ส ซึ่งเป็นสำนักข่าวชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา รายงานคืนผ่านมา ว่า แหล่งข่าวจำนวนสองคนที่ใกล้ชิด เปิดเผยว่า บีวายดี (BYD) ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีอันดับ 1 และมีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ชะลอการผลิตและการขยายธุรกิจในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาอย่างชัดเจน บีวายดีลดจำนวนกะการผลิตรถในโรงงานบางแห่งที่อยู่ในประเทศจีน โดยยกเลิกกะกลางคืน และลดกําลังการผลิตลงอย่างน้อย 1 ใน 3 ของกําลังการผลิตที่โรงงานบางแห่งในจีน รวมถึงชะลอแผนการเพิ่มสายการผลิตใหม่
การตัดสินใจดังกล่าว ที่นำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในการชะลอกำลังผลิตรถของบีวายดี สะท้อนถึงการเติบโตด้านยอดขายที่แข็งแกร่งของบีวายดีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถึงขั้นมียอดขายแซงเทสลานั้น ได้ชะลอตัวลง สาเหตุจากบีวายดีเผชิญกับสต็อกรถอีวีที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางการใช้กลยุทธ์ด้านราคาครั้งใหญ่ในตลาดของจีน ด้วยการประกาศลดราคาขายมากกว่า 20 รุ่นในจีนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านไป จนนำไปสู่ความไม่พอใจและกลายเป็นความขัดแย้งที่สะท้อนผ่านประธานเจ้าหน้าที่บริหารรถอีวียักษ์ใหญ่อีกแบรนด์ ได้แก่ จีดับเบิลยูเอ็ม หรือชื่อเดิมเกรท วอลล์ มอเตอร์ รวมถึงทางการจีนต้องออกมาเตือนวงการอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่เกี่ยวกับการใช้กลยุทธ์ลดราคาในตลาดรถยนต์ของจีนที่เป็นขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของโลก