ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายวิทัย รัตนากร กล่าวให้สัมภาษณ์ขณะเดินทางไปยังภาคเหนือของประเทศไทยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเงินบาทควรจะอ่อนค่ามากกว่านี้ เพื่อสะท้อนปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยที่แท้จริง นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยยังมีช่องว่างของการใช้นโยบายการเงิน หรืออัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของแบงก์ชาติ
สำหรับค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ต้นปี 2025 มาถึงปัจจุบัน พบว่าค่าเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นถึง 5% ส่งผลทำสถิติเป็นเงินบาทที่แข็งค่า และให้ผลตอบแทนมาเป็นอันดับ 2 ของสกุลเงินในแถบเอเชีย สาเหตุจากภาวะดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเข้าไปดูแลและบริหารจัดการไม่ให้เกิดความผันผวนมากจนเกินไป
ในเดือนกันยายน 2025 ผ่านไปค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐทำสถิติแข็งค่าสูงที่สุดในรอบสี่ปี ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากความสัมพันธ์ของราคาทองคำในตลาดโลกที่ทะยานทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์อย่างต่อเนื่อง
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวต่อไปว่า ภาวะค่าเงินบาทในปี 2026 จะมีเสถียรภาพดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับในปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากมุมมองที่ว่าดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศไทยจะลดน้อยลง อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นหรือนโยบายการเงินผ่อนคลายของธนาคารแห่งประเทศไทยสุดท้ายแล้วจะอยู่ที่เท่าไหร่นั้นยังเป็นเรื่องที่ไม่สามารถระบุได้ชัดเจน
สำหรับภาวะเงินเฟ้อทั่วไปในประเทศไทยนั้นชะลอตัวลงถึงขั้นติดลบต่อเนื่องถึงเจ็ดเดือนติดต่อกัน ส่งผลเกิดภาวะเงินเฟ้อติดลบอย่างยาวนานที่สุด ในรอบ 10 ปีเมื่อตัดช่วงภาวะวิกฤตโรคระบาด โควิด-19 ออกไป ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยให้เหตุผลว่าเป็นผลมาจากต้นทุนของวัตถุดิบและพลังงานปรับลดลงเป็นผลมาจากความต้องการของผู้บริโภคที่ลดต่ำลงแต่อย่างใด