นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรรวงพาณิชย์ มองแนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2568 คาดว่า จะยังคงขยายตัว แม้จะอยู่ในอัตราที่ชะลอลง โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหารที่ยังคงมีความต้องการในตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ มาตรการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่สร้างแรงกดดันและความผันผวนต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ความเสี่ยงจากภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐฯ ที่อาจยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้า ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งขับเคลื่อนนโยบายหลายด้าน ทั้งการเจรจากับคู่ค้าเพื่อเพิ่มการนำเข้า เร่งปิดดีล FTA ที่อยู่ระหว่างเจรจา เข้มงวดการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าในกลุ่มเฝ้าระวัง รวมถึงสร้างความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบการไทย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการส่งออกที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ เดือนกันยายนไทยยังขาดดุลการค้ากับจีน 6,479 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 9 เดือนขาดดุลรวม 4.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการค้าไทย-สหรัฐ ไทยดุล 5,228 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 9 เดือนแรกได้ดุล 3.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ จากภาพรวมการส่งออกที่ดีขึ้น โดยการส่งออกเดือนกันยายน 2568 มีมูลค่า 30,970 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 19% เป็นอัตราขยายตัวสูงสุดรอบ 42 เดือนนับจากเมษายน 2565 หากหักสินค้าเกี่ยวกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว 15.7 % สะท้อนถึงความกังวลเรื่องภาษีตอบโต้นำเข้าของสหรัฐคลี่คลายลงและจากนี้จะมีความชัดเจนขึ้น ผู้ประกอบการมีปรับตัวและมีความสามารถในการแข่งขันได้ รวมถึงการนำเข้าสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมและอิเลคโทรนิกส์ขยายตัว สนค.จึงมองว่าทิศทางการส่งออกในไตรมาส 4 ยังมีโอกาสขยายตัว คาดต่อเดือนมีมูลค่าเฉลี่ย 2.5-2.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ขยายตัวเดือนละ 4`% เทียบเดือนเดียวกันปีก่อน รวมกับ 9 เดือนแรกขยายตัวแล้ว 13.9 % จะส่งผลให้การส่งออกทั้งปี 2568 จากเดิมกระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าขยายตัว 2-3% เพิ่มเป็น 9.4-10.4 % เป็นมูลค่ารวม 329,146-332,146 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 10.53-10.67 ล้านล้านบาท ถือเป็นการส่งออกที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และการขยายตัวทั้งปีกลับมาทำสถิติขยายตัวมากสุดในรอบ 4 ปี เช่นเดียวกับไทยอาจกลับมาได้ดุลการค้าอีกครั้งในรอบ 4 ปีด้วย