พาณิชย์ รับลูกนายกฯ  เร่งระบายสินค้าผลผลิตทางการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา  พร้อมรับฟังปัญหาและข้อร้องเรียนในพื้นที่เต็มที่ 

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วานนี้ (26 มิ.ย. 68) นายกรัฐมนตรีได้ติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากกรณีความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร พลเรือน และชาวบ้านในพื้นที่ และได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เร่งระบายสินค้าตกค้างที่ไม่สามารถส่งไปจำหน่ายยังกัมพูชาได้ โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตร เช่น แตงโม กระท้อน และชมพู่ เป็นต้น

ในวันนี้ (27 มิ.ย. 68) กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในได้เข้าดำเนินการแล้ว โดยประสานกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระแก้ว ในการดึงผลผลิตออกจากพื้นที่ไปจำหน่ายภายใต้โครงการธงฟ้า เชื่อมั่นว่าจะสามารถระบายสินค้าได้ทัน ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินมาตรการทั้งเร่งด่วนและต่อเนื่อง ในการบรรเทาผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกร ผู้ค้ารายย่อยและชาวบ้านในพื้นที่ และผู้ประกอบการไทยที่ลงทุนหรือทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออกกับกัมพูชา โดยขณะนี้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ทั้ง 7 จังหวัดที่มีชายแดนติดกับกัมพูชา ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และสำรวจความต้องการในพื้นที่

และในช่วง 1-2 เดือนนี้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนจัดสรรพื้นที่จำหน่ายสินค้าผักผลไม้และสินค้าทั่วไป รวมทั้งร่วมกับห้างโมเดิร์นเทรดจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการซื้อ รวมทั้งหมด 18 กิจกรรมใน 7 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด ช่วยบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ค้าได้กว่า 1,200 ราย อย่างไรก็ดี ได้สั่งการให้มีการดำเนินการเพิ่มเติมอีกเพื่อให้มีความทั่วถึงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในส่วนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ประสานสถาบันการเงิน เช่น SME D-Bank และธนาคารออมสิน เข้าสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการทั้ง SMEs และรายใหญ่ที่ได้รับผลกระทบด้วย

สำหรับมาตรการต่อเนื่อง กระทรวงพาณิชย์จะเสริมแกร่งให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่น และ SMEs ให้มีความพร้อมต่อสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในลักษณะนี้ อาทิ การให้ความรู้ในด้านการบริหารจัดการ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี นวัตกรรม และ Soft power รวมทั้งการค้าขายออนไลน์ เป็นต้น สำหรับปัญหาเรื่องการขนส่งสินค้าไปยังกัมพูชาที่ต้องมีการเปลี่ยนเส้นทางก็ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อติดตามสถานการณ์และอำนวยความสะดวกให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยังมีการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถแสวงหาตลาดใหม่ทดแทนตลาดกัมพูชาเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง โดยอาจเริ่มจากประเทศในภูมิภาคอาเซียนและขยายต่อไปยังภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะกรณีที่สถานการณ์มีความยืดเยื้อออกไป 

ในขณะที่กรมการค้าภายในก็จะร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศดำเนินมาตรการบริหารจัดการผลไม้ในช่วงที่มีปริมาณผลผลิตออกมากอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดรณรงค์บริโภคผลไม้ไทย (Fruits Festival 2025) และการประสานหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าไปสั่งซื้อผลไม้ที่ได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้และได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี

“กระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์ รับฟังปัญหาและข้อร้องเรียนในพื้นที่ และประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ผู้ประกอบการ และเกษตรกร อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบด้านการค้าขายที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงจุดและทันท่วงที“ ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าว

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles