กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เดินหน้าขับเคลื่อนการสร้างความพร้อมให้ผู้ประกอบการไทยต่อเนื่องหลังจากได้จัดสัมมนาเชิงวิชาการในหัวข้อ“RVC – Transshipment : การเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการกับหลักเกณฑ์ใหม่ของสหรัฐฯ” ครั้งที่ 1 ร่วมกับสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่ง ประเทศไทย (สรท.) เมื่อวันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2568 ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก เพื่อขยายผลความรู้ให้ครอบคลุมและเข้าถึงผู้ประกอบการทุกกลุ่ม คต. จึงเตรียมจัดสัมมนาครั้งที่ 2 ร่วมกับ สมาพันธ์ เอสเอ็มอี ไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในวันพุธที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ณ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พร้อมทั้งมีแผนจัดสัมมนาร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การจัดสัมมนาต่อเนื่องในครั้งนี้เป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางศุภจี สุธรรมพันธุ์) เพื่อช่วยผู้ประกอบการไทยรับมือมาตรการภาษีและกฎระเบียบใหม่ของสหรัฐฯ และรักษาความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกของไทยในตลาดสหรัฐฯ โดยกำหนดจัดขึ้น ในวันพุธที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ณ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
การสัมมนาครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้รับความรู้ครอบคลุมหลายด้าน อาทิ 1) ความคืบหน้าการเจรจาภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) 2) ความสำคัญของหลักเกณฑ์ถิ่นกำเนิดสินค้า (Rules of Origin: ROO) และ RVC 3) สถานะปัจจุบันของการกำหนดเกณฑ์ RVC 4) การประเมินความเสี่ยงและเตรียมพร้อมของภาคอุตสาหกรรม 5) มาตรการเชิงรุกของรัฐบาลไทยในการป้องกันการสวมสิทธิ รวมถึง แนวทางปฏิบัติเพื่อขอรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าจากกรมการค้าต่างประเทศ และคำแนะนำต่างๆ สำหรับผู้ประกอบการ เพื่อยื่นขอรับหนังสือรับรองฯ Form C/O ทั่วไป สําหรับการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ได้อย่างถูกต้อง ถูกกฎถิ่นกําเนิด เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์มาตรการทางการค้าในปัจจุบัน
นางอารดาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดสัมมนาตามหลักสูตรนี้จะเป็นการช่วยให้ผู้ส่งออกเข้าใจในขั้นตอนการขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าตามตามหลักเกณฑ์ใหม่ของสหรัฐฯ เพื่อให้การออก Form C/O เป็นไปอย่างถูกต้อง รวมทั้ง เพิ่มแต้มต่อทางการค้าและยกระดับศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สําหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมการสัมมนาดังกล่าว สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองบริหารการนําเข้าและรับรองถิ่นกําเนิด โทร. 02 547 5085 หรือ www.dft.go.th หรือสายด่วน 1385