นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามและขับเคลื่อนนโยบายสำคัญเร่งด่วนของกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ว่า ได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล และนโยบายกระทรวงพาณิชย์ในเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการเปิดเสรีการส่งออกข้าวตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีการแข่งขันมากขึ้น ช่วยให้รายย่อยมีโอกาสส่งออกมากขึ้น และเพิ่มปริมาณการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุดได้ลดขั้นตอนการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกข้าวจาก 3 วันเหลือ 30 นาที และกำลังจะปรับลดในเรื่องปริมาณการเก็บสต๊อก และค่าธรรมเนียมการขอเป็นผู้ประกอบการค้าข้าว
ทั้งนี้ การเก็บสต๊อกข้าว เดิมกฎหมายการค้าข้าว กำหนดให้ผู้ส่งออกที่จะส่งออกข้าว ต้องเก็บสต็อกไม่ต่ำกว่า 500 ตัน จะปรับลดปริมาณการเก็บสต๊อก โดยหากเป็นเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ยกเว้นการเก็บสต๊อก ผู้ประกอบการรายกลาง ปรับลดการเก็บสต๊อกเหลือ 100 ตัน ส่วนรายใหญ่ยังคงเดิมที่ 500 ตัน ส่วนค่าธรรมเนียม กรณีเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร จะยกเว้นไม่ต้องเสีย ผู้ประกอบการรายเล็กเหลือ 1 หมื่นบาท รายกลาง 3 หมื่นบาท และรายใหญ่ 5 หมื่นบาทเท่าเดิม ซึ่งในส่วนของการเก็บสต๊อก สามารถทำได้เลย แต่เรื่องค่าธรรมเนียม ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน แต่คาดว่าจะเริ่มได้ภายในเดือน มี.ค.2568
ส่วนเฟส 2 จะเพิ่มความสะดวกในการจดทะเบียนผู้ส่งออกข้าวและผู้ประกอบการค้าข้าวได้ในครั้งเดียว โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการค้าภายใน และกรมการค้าต่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเป็นผู้ส่งออกข้าว
อีกทั้ง ยังได้ติดตามเรื่องสำคัญอีกหลายเรื่อง อาทิ การเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ได้กำชับให้เร่งการเจรจา เพราะหากเพิ่มได้มาก ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการค้า การลงทุน การดูแลสินค้าเกษตร ที่จะต้องทำต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้ามันสำปะหลัง ที่ขณะนี้กำลังออกสู่ตลาด การปรับรูปแบบการมอบตรา Thai SELECT ให้กับร้านอาหาร โดยจะให้เป็นดาวเหมือนกับมิชลิน 1 2 หรือ 3 ดาว เพื่อช่วยโปรโมตร้านอาหารไทย การพัฒนางานให้บริการต่าง ๆ ของกระทรวงพาณิชย์ ผ่านแอปพลิเคชัน ครอบคลุมทุกกรม การผลักดัน Thailand Brand ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SME สามารถขยายตลาดส่งออกได้ โดยใช้ตรา Thailand Brand บวกกับตราสินค้าของตัวเอง ต่อไปหากแข็งแรง ก็สามารถใช้ตราของตัวเองได้
นอกจากนี้ ยังจะเดินหน้าการปราบปรามนอมินี ที่แอบเข้ามาทำธุรกิจสงวนของคนไทย และการเข้มงวดสินค้าไม่มีคุณภาพ ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อดูแลผู้บริโภค และผู้ประกอบการ SME ของไทยต่อไป