บลูมเบิร์ก และเดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล ซึ่งเป็นสำนักข่าวและสื่อชื่อดังด้านเศรษฐกิจการเงินและการลงทุนระดับโลกในสหรัฐอเมริกา รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังมีวางแผนเพื่อสร้างแรงกดดันกับประเทศต่างๆ ที่ต้องการ ให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาลด หรือยกเว้น อัตราภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งรวมถึงมาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs เพื่อให้ประเทศเหล่านั้นใช้นโยบายจำกัดการค้ากับประเทศจีน นอกจากนี้ ยังอาจมีการเตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินควบคู่ด้วย
ด้านนายเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ หรือ USTR เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสหรัฐสหรัฐอเมริกานายโดนัลด์ทรั่มได้ประกาศใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทนเมื่อวันที่ 2 เมษายนเป็นต้นมานั้น พบว่า 50 ประเทศ ได้ดำเนินการติดต่อมายังสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา เพื่อหารือเกี่ยวกับภาษีดังกล่าว
ด้านความเคลื่อนไหว และท่าทีของรัฐบาลจีน หลังจากเกิดกระแสข่าวดังกล่าวนั้น โฆษกกระทรวงพาณิชย์ จีน เปิดเผยว่า ประเทศจีนเคารพสิทธิ และวิธีการของทุกประเทศในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้านเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐอเมริกา โดยอยู่บนพื้นฐานการเจรจาและความเท่าเทียม อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนจะดำเนินการคัดค้านอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง หากมีประเทศใดประเทศหนึ่งทำข้อตกลงที่ส่งผลเสียกระทบต่อประเทศจีน รัฐบาลจีนจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด และอย่างเท่าเทียมเมื่อใดก็ตามที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น
โฆษกกระทรวงพาณิชย์ จีน เปิดเผยต่อไปว่า การใช้นโยบายอำนาจนิยม และการกลั่นแกล้งแต่เพียงฝ่ายเดียวในด้านเศรษฐกิจ ความร่วมมือการค้า และภายใต้นโยบายต่างตอบแทนล้วนเป็นการเอารัดเอาเปรียบ การยินยอมหรือจำนนนั้น ไม่ได้นำมาซึ่งสันติภาพ แม้แต่การประนีประนอมก็ไม่นำไปสู่การให้ความเคารพ การกระทำของประเทศใดก็ตาม เพื่อเป้าหมายแสวงหาผลประโยชน์ในระยะสั้น เพื่อทำให้เกิดการทำลายผลประโยชน์ของประเทศอื่น และให้ได้มกับการยกเว้น จึงไม่ต่างกับการทำสัญญากับเสือ เพื่อเอาหนังเสือของมัน ในที่สุดจะทำให้ทุกฝ่ายไม่ได้อะไรเลย
ถ้าการค้าระหว่างประเทศจะหันมาใช้กฏแห่งป่า ในที่สุดแล้ว ทุกประเทศจะกลายเป็นเหยื่อ ประเทศจีนจะร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อต่อต้านการกลั่นแกล้งฝ่ายเดียว เพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นธรรม เพื่อผลประโยชน์ และเพื่อปกป้องความเป็นธรรม และความยุติธรรมระหว่างประเทศ