นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เผยถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ม.ค. 67 พบว่ามีมูลค่า 22,649 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 10% บวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 19 เดือน นับจากเดือน มิ.ย. 65 สอดคล้องกับการค้าโลกที่เริ่มฟื้นตัวจากภาวะเงินเฟ้อ และอีกหลายประเทศที่การส่งออกก็ขยายตัวได้ดีเช่นกัน อาทิ เวียดนาม บวก 42%, ไต้หวัน บวก 18.1%, เกาหลีใต้ บวก 18% และสิงค์โปร บวก 15.7%
ส่วนตัวเลขการนำเข้าของไทยในเดือน ม.ค. 67 มีมูลค่า 25,407 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 2.6% โดยไทยยังขาดดุลการค้า 2,757 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นต้น
นอกจากนี้ ฐานการส่งออกต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีแรงหนุนจากการส่งออกที่ขยายตัวทุกกลุ่มสินค้า โดยสินค้าเกษตรขยายตัว 14% อุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 3.8% และสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 10.3% เช่น ข้าว ส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 45% ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง บวกถึง 30.1% รวมถึงผักสด ผักประป๋อง สิ่งปรุงรส อาหารสัตว์เลี้ยง อาหารกระป๋อง และเครื่องจักรกล และอัญมณีและเครื่องประดับที่ขยายตัวทั้งหมด โดยตลาดส่งออกที่ขยายตัวได้ดีในเดือนมกราคม สูงสุด คือ ฮ่องกง บวกถึง 72% รองลงมาเป็น กลุ่มประเทศ CIS บวก 64.6% และทวีปออสเตรเลีย บวก 27.2%
สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 67 คาดว่ายังคงได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้า รวมทั้งได้รับอานิสงส์จากมาตรการรักษาความมั่นคงทางด้านอาหารของหลายประเทศ ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตร โดยกระทรวงพาณิชย์ยังตั้งเป้าการทำงาน เพื่อผลักดันการส่งออกของไทยในปี 67 สามารถขยายตัวได้ 1–2% ซึ่งในแต่ละเดือนการส่งออกต้องได้เฉลี่ย 24,069–24,328 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ส่งออกไทยจะเป็นไปตามเป้าหมายได้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โลก เฉพาะอย่างยิ่งกับค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นจากเหตุการณ์โจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง และปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์