นายสมชาย พรรัตนเจริญ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า เงิน 10,000 บาท ที่รัฐบาลโอนให้กลุ่มผู้พิการและถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้วในวันนี้ ไม่ได้ส่งผลให้การซื้อสินค้าในร้านค้าปลีก หรือ โชว์ห่วยคึกคักมากนัก โดยคาดว่าจะมีเงินไหลมาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคไม่เกิน 15% เท่านั้น เพราะในแต่ละเดือนกลุมผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ จะได้รับเงินช่วยเหลือสำหรับซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคอยู่แล้ว
ดังนั้นเงินหมื่นที่ได้วันนี้ จึงเหมือนกับการถูกหวย และเชื่อว่า ส่วนใหญ่จะนำไปใช้หนี้ จ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ หรือ ค่าใช้จ่ายที่รัดตัวเป็นหลัก แม้ว่าจะช่วยประคองค่าใช้จ่ายให้คน 14.5 ล้านคนได้ แต่จะไม่เป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจอย่างที่รัฐบาล ตั้งเป้าหมายไว้ เต็มที่ก็เป็นแค่ฝนพรำๆ หมุนได้เพียงรอบเดียวเท่านั้น และเมื่อใช้เงินหมด ก็จะกลับมาอยู่ในสภาวะเดิม
อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลทำเฟส 2 ต่อ ก็อยากให้ดึงร้านค้ารายย่อย หรือ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี.เข้าร่วมให้มากขึ้น เพื่อช่วยสริมความแข็งแรงให้กลุ่มผู้ประกอบการฐานราก ที่ตอนนี้ยังอ่อนแอ แม้จะไม่ตาย แต่ก็ไม่เจริญ เช่น ใช้เงินมาทำแพลตฟอร์มแห่งชาติ (E-Market Place) เพื่อเป็นช่องทางการจำหน่าย สินค้าให้กับชุมชนและผู้ประกอบการไทย ที่ขณะนี้กำลังถูกถล่มโดยแพลตฟอร์มต่างชาติ จนไม่สามารถแข่งขันได้ เป็นต้น