ล่าสุด เมื่อเวลา 6.30 น. ตามเวลาฮ่องกง หรือเวลา 05.30 น. เวลาไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงรายงานว่า ประชาชนที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 44 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บมีกว่า 40 รายอยู่ในอาการสาหัส ประชาชนที่สูญหายมีจำนวน 279 ราย และประชาชนมีจำนวนกว่า 900 รายที่ต้องพักพิงในศูนย์อพยพที่จัดไว้ให้ทั้ง 8 แห่ง เนื่องจากไม่สามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยได้ จากโศกนาฏกรรมไฟไหม้ครั้งใหญ่ของตึกอพาร์ทเม้นท์หวัง ฟุ๊ก คอร์ท รวม 7 จาก 8 ทาวเวอร์ แต่ละทาวเวอร์มีความสูง 32 ชั้น ส่งผลเป็นเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 30 ปีของฮ่องกง ขณะที่ ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงตึกอพาร์ทเมนท์ได้ 3 ทาวเวอร์ ในขณะที่อีก 4 ทาวเวอร์ยังคงไม่สามารถควบคุมเพลิงได้
นางเอลีน ชุง เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้กํากับการอาวุโส สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฮ่องกง เปิดเผยว่า ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ชาย 3 คน มีอายุ 52 ถึง 68 ปีจากบริษัทก่อสร้างตึกอพาร์ทเม้นท์หวัง ฟุ๊ก คอร์ท ในข้อหาฆาตกรรม ซึ่งกำลังทำการสอบสวนเชิงลึกต่อไป ผู้ต้องสงสัยดังกล่าว พบว่าเป็นกรรมการ 2 คน และอีกคนป็นที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม
สำหรับสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเหตุโศกนาฏกรรมไฟไหม้ครั้งใหญ่ในรอบกว่า 30 ปีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ตึกอพาร์ทเม้นท์ทั้งหมดอยู่ในระหว่างการปรับปรุงและซ่อมแซมทั้งภายนอกและภายในตึก โดยมีการติดตั้งนั่งร้านไม้ไผ่ภายนอกทาวเวอร์ ซึ่งพบว่ากลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ฮ่องกงเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่ยังคงใช้ไม้ไผ่ทำเป็นนั่งร้านเพื่อใช้สำหรับปรับปรุงหรือซ่อมแซมอาคารสูง ในขณะที่ เมื่อเดือนมีนาคมผ่านมา รัฐบาลฮ่องกงได้ประกาศแผนทยอยเลิกใช้ไม้ไผ่ทำนั่งร้านหลังจากที่พบว่าเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับนั่งร้านทำจากไม้ไผ่ในช่วงระหว่างปี 2019-2024 มีผู้ได้เสียชีวิต 22 ราย ในขณะเดียวกันได้ประกาศให้มีการใช้นั่งร้านที่ทำจากเหล็กหรือโลหะที่มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นเป็น 50% ในแต่ละโครงการหรือสถานที่ที่มีการซ่อมแซมหรือปรับปรุงอาคารสูง
ตึกอพาร์ทเม้นท์หวัง ฟุ๊ก คอร์ท ได้รับอนุญาตให้มีประชาชนเข้าไปพักอาศัยและเป็นเจ้าของมาตั้งแต่ปี 1983 ภายใต้โครงการเป็นเจ้าของบ้านที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่โดยใช้เวลานาน 1 ปีด้วยต้นทุน 330 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือกว่า 1,372 ล้านบาท
