มิตซูบิชิญี่ปุ่นชี้ค่ายรถอีวีจีนทำเกินไปในตลาดรถยนต์อาเซียน มองยอดขายในไทยดำดิ่งกว่า 20% มาตรการอัดฉีดเศรษฐกิจไทยมีผลจำกัด ตลาดรถอีวีในไทยถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ย้ำไม่ร่วมวงสงครามลดราคา

นายทาคาโอะ คาโต ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ President & CEO มิตซูบิชิ มอเตอร์ ญี่ปุ่น เปิดเผยกับสำนักข่าวนิกเคอิ ว่า มุมมองที่มีต่อภาวะตลาดรถยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนในปี 2025 ยังคงอยู่ในทิศทางลบ เนื่องจากตลาดรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้นำมาเป็นระยะเวลานานในอาเซียนได้รับผลกระทบจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีสัญชาติจีนต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม มิตซูบิชิยังคงรักษาการแข่งขันรถยนต์ในตลาดอาเซียน เนื่องจากยอดขายในภูมิภาคอาเซียนคิดเป็น 30% ของยอดขายทั้งหมด

ในปีงบประมาณ 2024 ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2025 นี้คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์มิตซูบิชิใน 5 ประเทศสำคัญในอาเซียนจะลดลงมาเหลือไม่ถึง 3 ล้านคันเมื่อเทียบกับยอดขายในปีงบประมาณ 2023 ที่ระดับ 3.21 ล้านคัน มิตซูบิชิยังคงมียอดขายที่ทำได้ดีในตลาดฟิลิปปินส์ และเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นกังวลต่อไปคือตลาดรถยนต์มิตซูบิชิในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท รวมถึงประเทศไทย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะยังมียอดขายทรุดหนักมากถึง -10% และ -20% ตามลำดับ

ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า สำหรับประเทศไทยนั้น หนี้ ครัวเรือนไทยเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งกำลังซื้อของคนไทย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยชุดปัจจุบันมีขนาดในการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงจำกัด และดูเหมือนว่าจะไม่สามารถกระตุ้นความต้องการในการบริโภค ยอดขายรถกระบะ 1 ตันในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นยานยนต์ที่ใช้หารายได้ของประชากรส่วนใหญ่ในต่างจังหวัดนั้น มียอดขายตกต่ำเหลือเพียงไม่ถึงครึ่งหนึ่งของยอดขายทึ่เคยมีมาในช่วง 2 ปีผ่านมา

เมื่อพูดถึงต้นทุนทางการเงิน หรือหมายถึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น บอกว่ามีความระมัดระวังในการที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ด้วยความกังวลว่าค่าเงินบาทเมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐจะรวมอ่อนค่าลงไปมาก ดังนั้นหากมองในภาพรวมเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในประเทศแถบอาเซียนจะพบว่ามีแนวโน้มจะชะลอการลดดอกเบี้ยลง

นายทาคาโอะ คาโต กล่าวต่อไปในประเด็นที่ว่าสถานการณ์ตลาดรถอีวีสัญชาติจีนที่หลั่งไหลต่อเนื่อง ซึ่งเปรียบเสมือนกับกระแสน้ำท่วมที่ไหลป่าเข้าสู่ในภูมิภาคอาเซียนนั้น ผู้ผลิตรถอีวีสัญชาติจีนกระทำหลายอย่างมากเกินไป ดูได้จากการผลิตรถอีวีที่มากเกินความต้องการบริโภคในประเทศจีนส่งผลทำให้เกิดสต๊อกรถอีวีล้นตลาดในจีน ได้หลั่งไหลเข้ามาในตลาดรถยนต์ประเทศไทย และยังมีการใช้สงครามราคาด้วยการลดราคาขายรถอีวีอย่างมากในไทย สิ่งเหล่านี้ส่งผลทำให้เกิดความไม่มั่นใจต่อทิศทางราคาขายรถยนต์ในไทย ผู้ผลิตรถอีวีจีนได้มีการเปิดโรงงานการประกอบรถอีวีในประเทศไทยตามมาตรการสนับสนุนของรัฐบาลไทย อย่างไรก็ตาม การนำชิ้นส่วนรถอีวีซึ่งส่วนใหญ่นำมาจากประเทศจีนเข้ามาประกอบภายในโรงงานที่อยู่ในไทย สถานการณ์เช่นนี้ทำให้มิตซูบิชิ มอเตอร์ ญี่ปุ่น มีความจำเป็นที่จะต้องติดตาม และประเมินสถานการณ์ ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างไรต่อตลาดรถยนต์เพื่อนบ้านในอาเซียน

ตลาดยานยนต์มีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้รถยนต์เครื่องสันดาปไปสู่รถอีวีจะยังคงเปลี่ยนผ่านไปในแต่ละระยะเวลาระดับหนึ่ง ผมมองว่าภาวะตลาดรถอีวีอิ่มตัวได้เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน สะท้อนจากส่วนแบ่งรถอีวีสัญชาติจีนเทียบตลาดรถยนต์โดยรวมในไทย พบว่าในบางเดือนมีส่วนแบ่งมากกว่า 17% ของทั้งหมดนั้น เริ่มมีตัวเลขลดต่ำลง มันเหลืออยู่เพียงเลขหลักเดียว และตัวเลขดังกล่าวยังไม่สามารถฟื้นตัวได้นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ ญี่ปุ่น กล่าวว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ จะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามราคารถยนต์ แต่จะแข่งขันกันด้วยการรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์รถยนต์มิตซูบิชิ ด้วยการพัฒนา ไม่แต่เพียงคุณภาพเท่านั้น แต่จะพัฒนาถึงเรื่องของการขายและบริการหลังการขายซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด รัฐบาลไทยได้มีความชัดเจนในการสนับสนุนโครงการผลิต และการขายรถยนต์ด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด นี่คือสิ่งที่ทำให้เรามั่นใจได้ว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ สามารถแข่งขันได้ดี

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles