นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บอร์ด ขสมก.) เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ด ขสมก.วันที่ 13 มี.ค. 67 นั้น บอร์ด ขสมก.มีวาระเพื่อพิจารณา 4 วาระ โดยวาระแรกเรื่องขอความเห็นชอบโครงการจัดหาและบำรุงรักษารถโดยสารพลังงานสะอาด (EV) จำนวน 3,390 คัน ตามแผนขับเคลื่อน ขสมก. ซึ่งแบ่งเป็นเฟส 1 จำนวน 350 คัน เฟส 2 จำนวน 1,520 คัน และเฟส 3 จำนวน 1,520 คัน โดยที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติให้ ขสมก.นำเรื่องกลับไปทบทวนใหม่ตามข้อสังเกตของบอร์ด เนื่องจากตัวเลข และรายละเอียดต่างๆ ที่เสนอมาโดยบริษัทที่ปรึกษานั้นบอร์ดยังติดใจหลายประเด็น เช่น ข้อมูลยังไม่ตรงและใกล้เคียงกับข้อเท็จจริง และควรทำรายละเอียดให้รอบคอบ โดยบอร์ดตั้งข้อสังเกตว่าหากนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเปลี่ยนแปลงแผนขับเคลื่อนเกรงว่าจะถูกตีตกจึงให้กลับไปทบทวนและให้นำเสนอคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องก่อนเสนอบอร์ด ขสมก.พิจารณาอีกครั้ง
ทั้งนี้ ในการประชุมบอร์ด ขสมก.เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2567 ซึ่งที่ประชุมมีมติรับทราบหลักการโครงการฯ จัดหารถเมล์ EV ที่อยู่ในเฟส 3 จำนวน 1,520 คัน รูปแบบการร่วมลงทุนเอกชน ( PPP) นั้น เป็นการรับทราบหลักการ ยังไม่ได้มีมติเห็นชอบเช่นกัน ดังนั้น วันนี้เป็นการให้ ขสมก.ทบทวนโครงการใหม่ทั้งหมด
อีกทั้ง ที่ประชุมบอร์ดมีมติเห็นชอบ ได้แก่ ร่างงบประมาณประจำปี 2568 (งบลงทุนและงบทำการ) ในส่วนของงบลงทุน วงเงิน 1,407.957 ล้านบาท อาทิ โครงการพัฒนาสถานีขนส่งรถโดยสารประจำทาง (อู่บางเขน) รองรับการเชื่อมต่อการเดินทาง (Multimodal Transportation) ของประชาชนอย่างไร้รอยต่อ ระยะเวลา 2 ปี วงเงิน 800 ล้านบาท อนุมัติเบิกจ่าย 550 ล้านบาท นอกจากนี้เห็นชอบการเช่าระบบตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติการเดินรถ (GPS) พร้อมติดตั้ง ระยะเวลา 5 ปี วงเงิน 774.300 ล้านบาท รวมถึงเห็นชอบการสอบทานกฎบัตรและคู่มือการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบ ฉบับปรับปรุงเดือน พ.ย. 2566
ส่วน ความคืบหน้าการบอกเลิกสัญญาเหมาซ่อมรถปรับอากาศสีฟ้า (NGV) ยี่ห้อบอนลัค จำนวน 489 คัน กับกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ( บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO บริษัท สแกน อินเตอร์ จํากัด (มหาชน) หรือ SCN พร้อมเรียกค่าเสียหายนั้น ทางคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมายพิจารณาตรวจสอบรายละเอียดแล้ว มีความเห็นให้เชิญเอกชนมาเจรจาเพื่อบอกกล่าวก่อนที่ ขสมก.จะมีการบอกเลิกสัญญาต่อไป