ยูโอบี จับมือ ธรรมศาสตร์  เร่งเสริมความรู้ทางธุรกิจให้ที่ปรึกษาธุรกิจเอสเอ็มอียุคใหม่

ธนาคาร ยูโอบี ประเทศไทยลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับ คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พัฒนาหลักสูตร Banker’s Executive Certification Programme เร่งเพิ่มพูนความรู้ด้านการเงินและทักษะการทำงานให้แก่ที่ปรึกษาธุรกิจสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจของลูกค้า

ภายใต้ข้อตกลงนี้ ธนาคารได้ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ออกแบบหลักสูตรที่ผสานการเรียนรู้ทั้งแบบในห้องเรียน การลงมือปฎิบัติจริงจากกรณีตัวอย่างศึกษา (case study) การเข้าร่วมเวิร์คช็อป การจำลองเหตุการณ์จากสถานการณ์จริง และการบรรยายพิเศษจากบุคคลากรชั้นนำในอุตสาหกรรม ในหัวข้อต่างๆ ประกอบด้วย เทรนด์การดำเนินธุรกิจที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ความสำคัญ การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อออกแบบแผนธุรกิจ กลยุทธ์ และแผนการดำเนินงานของหน่วยงานที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเอสเอ็มอี การวางแผนแนวทางการขายและบริหารความเสี่ยง รวมถึงการเสริมทักษะด้านการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และทักษะที่จำเป็นในการบริหารทีมงานให้แก่ผู้จัดการสัมพันธ์ของธนาคารที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารยุคใหม่ 30 คน เป็นระยะเวลารวม 3 เดือน

นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่าในฐานะธนาคารชั้นนำของภูมิภาคอาเซียนสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี ยูโอบีให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรของเราให้มีความพร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และรับมือกับความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง หลักสูตรในปีนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มพูนความรู้เชิงเทคนิค และยกระดับทักษะทางธุรกิจที่มีอยู่เดิมให้แก่พนักงานที่เข้าร่วมโครงการแล้ว ยังสอดแทรกวิธีการสื่อสารและแนวทางการบริหารจัดการทีมงานที่สามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานได้จริง เพื่อช่วยให้พนักงานของเราสามารถส่งมอบการบริการและนำเสนอโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจของลูกค้าต่อไป

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรพรรณ ยลระบิล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและเครือข่ายพันธมิตร คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เพื่อพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมศักยภาพบุคคลากรของธนาคาร หลักสูตรในปีนี้เราเน้นให้ผู้เข้าอบรมยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการบริการ และการปรับกระบวนทัศน์ความคิดแบบ agile mindset  ที่เน้นการเพิ่มประสิทธิผลและความคล่องตัวในการทำงาน ผู้เข้าอบรมจะมีโอกาสฝึกการตัดสินใจ แก้ปัญหา และพัฒนาความสามารถในด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงเรียนรู้แนวทางการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างให้แก่ตนเองในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ” 

นางสาวศศิวิมล อารยวัฒนาพงษ์  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรัพยากรบุคคล ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่าบุคลากรถือเป็นทรัพย์สินที่มีค่าและสำคัญที่สุดของธนาคาร และเราให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคคลากรของเราให้เติบโตไปพร้อมกับองค์กร หลักสูตร Banker’s Executive Certification Programme นับเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาบุคคลากรและเสริมสร้างศักยภาพความเป็นผู้นำที่ธนาคารเตรียมไว้ให้แก่พนักงานเพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจอย่างมืออาชีพ และเสริมสร้างภาวะผู้นำให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการได้เติบโตภายในธนาคาร  ความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างยูโอบี ประเทศไทย และ คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถือเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของธนาคารในการส่งเสริมการเรียนรู้ เสริมสร้างทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานให้แก่พนักงาน เพื่อรักษาพนักงานให้เติบโตในสายอาชีพและพร้อมก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำที่สามารถบริหารทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต

ตั้งแต่ริเริ่มโครงการ The Banker’s Executive Certification Programme ในปี 2560 มีบุคคลากรที่ปรึกษาธุรกิจสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี 102 คน ที่เข้ารับการฝึกอบรม ในจำนวนนี้มี 55 คนที่ก้าวสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในสายงานที่รับผิดชอบภายในธนาคารยูโอบีประเทศไทย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles