นายยุทธชัย เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดเผยรายงานผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอาเซียน หรือ ASEAN Consumer Sentiment Study (ACSS) ประจำปี 2568 ที่จัดทำร่วมกับบริษัท Boston Consulting Group เผยว่าความมั่นใจทางการเงินเติบโตควบคู่กับพฤติกรรมการออมที่เปลี่ยนแปลงไป ผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคไทย 87% มีความมั่นใจในการบริหารการเงินส่วนบุคคลของตนเอง และกว่า 7 ใน 10 (74%) มีการออมเงินมากกว่า 10% ของรายได้ โดยในกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 88% ซึ่งข้อมูลจากธนาคารยูโอบี ประเทศไทย สะท้อนถึงแนวโน้มนี้เช่นกัน โดยพบว่ายอดเงินฝากของลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงเติบโตขึ้น 21%
ขณะที่ลูกค้ากลุ่ม Gen Z มีบทบาทสำคัญในการเร่งการเติบโตของจำนวนบัญชีเงินฝากในกลุ่มลูกค้ายูโอบี ด้วยการเปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้นถึง 48% สะท้อนความสนใจในการออมเงินของกลุ่มคนรุ่นใหม่
อย่างไรก็ตาม วินัยในการออมยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ โดย 85% ของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงเลือกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในปัจจุบัน ขณะที่ 76% ของ Gen Y และ 82% ของ Gen Z ระบุว่าความกดดันจากสังคมและเพื่อนเป็นอุปสรรคต่อการออมอย่างต่อเนื่อง
นายยุทธชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ‘คนรุ่นใหม่ของไทยมีความเข้าใจด้านดิจิทัลและเปิดรับการเรียนรู้เกี่ยวกับการวางแผนและบริหารการเงิน แต่หลายคนยังเผชิญกับความท้าทายเชิงโครงสร้าง เช่น มีช่องว่างด้านความรู้ทางการเงิน ทัศนคติต่อการใช้จ่าย และความไม่มั่นคงของรายได้ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติและสร้างความมั่นคงทางการเงินระยะยาว เป้าหมายของธนาคารคือการช่วยลดช่องว่างเหล่านี้ ผ่านเครื่องมือและข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้พวกเขามีอิสระในการใช้ชีวิตตามที่ใฝ่ฝัน โดยไม่กระทบต่อความมั่นคงทางการเงินของตนเอง’