รักคุณเท่าฟ้าโกยกำไรสุทธิปี 66 พุ่งทะลักกว่า 10,000% รายได้รับทะยานกว่า 100,000 ล้านบาท

การบินไทย รักคุณเท่าฟ้าโกย กำไร สุทธิปี 66 พุ่งทะลักกว่า 10,000% รายได้รับทะยานกว่า 100,000 ล้านบาท

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2566 พบว่า มีกำไรสุทธิ 28,096.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,429.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุนที่ 272.25 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 12.87 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 ที่ขาดทุนหุ้นละ 0.12 บาท ด้านผลกำไรก่อนหักภาษี หรือ EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบิน รวมค่าเช่าเครื่องบินที่คำนวณจาการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hour) มีกำไรจำนวน 42,875 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ 25,634 ล้านบาท

สำหรับรายได้รวมในปี 2565 ซึ่งไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว มีจำนวน 161,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56,026 ล้านบาท หรือ +53.3% พบว่าส่วนใหญ่เป็นรายได้จากค่าโดยสาร และค่าน้ำหนักส่วนเกินรวมมีจำนวน 132,737 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 79.3% จากปัจจัยการเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน และเส้นทางบินที่ให้บริการเพื่อรองรับปริมาณความต้องการเดินทางของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ การกลับมาเปิดให้บริการในเส้นทางไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกครั้ง การเพิ่มความถี่ในเส้นทางบินยอดนิยม ทำรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วย โดยรวมค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ำมันและค่าเบี้ยประกันภัย เท่ากับ 3.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.24 บาท หรือ +8.5% หรือประมาณ 10,300 ล้านบาท

บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายรวม ซึ่งไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ที่ 120,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23,612 ล้านบาท หรือ +23.4% ขณะเดียวกันมีต้นทุนทางการเงิน ซึ่งเป็นการรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) จำนวน 15,611 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,224 ล้านบาท หรือ +26.0%

ด้านผลกำไรนั้น การบินไทยมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้เป็นจำนวน 3,956 ล้านบาท ได้แก่ กำไรจากการยกเลิกสัญญาที่มีภาระเกินควรกว่าประโยชน์ที่พึงได้ กำไรจากการตัดรายการหนี้สินทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยวิธีทุนตัดจำหน่าย และขาดทุนจากการปรับปรุงหนี้สินให้เป็นไปตามคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักทรัพย์ และกำไรจากการขายทรัพย์สิน จำนวน 469 ล้านบาท

สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทมีเครื่องบินที่ใช้ทำการบินทั้งสิ้น 70 ลำ มีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบิน 12.2 ชั่วโมง ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 65.4% คิดเป็นเงินประมาณ 48,200 ล้านบาท ในขณะที่มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 40.9% โดยมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 79.7% สูงกว่าปีก่อนที่อยู่เฉลี่ย 67.9%

สำหรับจำนวนผู้โดยสารทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 13.76 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 52.7% สำหรับการขนส่งสินค้ามีปริมาณการผลิตด้านพัสดุภัณฑ์ (ADTK) สูงกว่าปีก่อน 40.9% ปริมาณการขนส่งพัสดุภัณฑ์ (RFTK) สูงกว่าปีก่อน 15.4% อัตราส่วนการขนส่งพัสดุภัณฑ์ (Freight Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 51.7% ต่ำกว่าปีก่อนที่เฉลี่ย 63.1%

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles