นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบาย รัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนครึ่งปีงบประมาณ 2567 (ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2567) จำนวน 77,289 ล้านบาท หรือคิดเป็น 113% ของแผนการเบิกจ่าย และคิดเป็น 32% ของกรอบงบลงทุนทั้งปี โดยเป็นการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ (ตั้งแต่ต.ค. 2566-มี.ค.2567) 34 แห่ง จำนวน 52,794 ล้านบาท หรือคิดเป็น 107% ของแผนการเบิกจ่าย และคิดเป็น 45% ของกรอบงบลงทุนทั้งปี
ส่วนรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน (ม.ค.2567-มี.ค.2567) 9 แห่ง จำนวน 24,495 ล้านบาท หรือคิดเป็น 131% ของแผนการเบิกจ่าย และคิดเป็น 20% ของกรอบงบลงทุนทั้งปี
ทั้งนี้ สคร. จะกำกับติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย และเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป
ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่า 95% ของแผนการเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และการประปานครหลวง (กปน.)
ส่วนรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่า 95% ของแผนการเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญสามารถเบิกจ่ายได้สูงกว่าแผน อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะของ รฟม. โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ระยะที่ 1 (ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา) ของ รฟท. และโครงการทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
ขณะที่โครงการลงทุนที่เบิกจ่ายได้ต่ำกว่าเป้าหมายมากที่สุด ได้แก่ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกตะวันตกของ กทพ. โครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ระยะที่ 1 ของอสส. โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยารังสิต ระยะที่ 2 ของอภ.