สมาคมค้าทองคำ ประกาศ ราคาทองคำ ในไทยปิดตลาดสิ้นวัน ปรับลง 150 บาท หลังปรับราคา 5 ครั้ง ส่งผลให้ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 40,700 บาท และขายออก 40,800 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 39,961.76 บาท และขายออก 41,300 บาท
โดยทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 2,387 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 36.11 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามในทางเทคนิคเริ่มเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาขึ้นอย่างชัดเจนอีกครั้ง
ทั้งนี้ราคาทองคําปรับตัวสูงขึ้นกว่า 20 ดอลลาร์ หลังจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ออกมาลดลง จากที่คาดการณ์ ขณะที่ Core CPI และ CPI ออกมาใกล้เคียงจากที่คาดการณ์ทําให้ภาพรวมนักวิเคราะห์มองว่าเฟดมีโอกาสสูงที่จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. แม้ว่าตัวเลข Core PPI และ PPI ของสหรัฐฯจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯดูเหมือนจะอ่อนแอลงจาก Unemployment Claims และ Unemployment Rate ที่ออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ขณะที่ Non-Farm Employment Change ออกมาลดลงจากเดิม รวมถึงภาคค่าใช้จ่ายของ Retail Sales ชะลอตัวลงจากเดิม ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังจากที่ไม่สามารถทรงตัวแถวบริเวณ 106 จุดได้ โดยเมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 105.05 จุด ก่อนจะลงไปทําจุดตํ่าสุดที่ระดับ 104.28 จุด และปิดที่ระดับ 104.28 จุด
ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 104.16 จุด โดยดัชนีดอลลาร์จะมีเส้นค่าเฉลี่ยแนวรับอยู่แถวบริเวณ 104.87 จุด ขณะที่ด้านค่าเงินบาทแข็งค่าลงอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อวานนี้แข็งค่าลงมาที่ระดับ 36.33 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.18 บาทต่อดอลลาร์ ในส่วนของกองทุนทองคํา SPDR เมื่อวานนี้ซื้อเข้า 1.44 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 833.36 ตัน
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคําทางเทคนิคเริ่มเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาขึ้นอย่างชัดเจนอีกครั้ง โดยที่ราคาทองคําและเส้นค่าเฉลี่ยโดยส่วน ใหญ่เริ่มปัดขึ้นมา หลังจากที่อยู่ในช่วงของการปรับฐาน (Corrective Wave) มานาน ซึ่งจะวิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคําน่า จะเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาขึ้นได้ในระยะยาว ขณะที่ราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 40,700 บาท และมีแนวต้านสําคัญที่ 41,300 บาท/บาททองคําโดยราคาทองไทยมีการปรับตัวขึ้นน้อยลงเนื่องจากค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าซึ่งหากดูจากจากกราฟทางเทคนิคค่าเงินบาทเริ่มเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาลงและอาจจะเป็นการปรับฐาน