ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจ่อปรับลง หลังตลาดกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ไม่มั่นใจเฟดลดดอกเบี้ย

ราคา น้ำมันดิบ ตลาดโลกจ่อปรับลง หลังตลาดกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ไม่มั่นใจเฟดลดดอกเบี้ย

บมจ.ไทยออยล์ คาดแนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (22–26 ม.ค. 67) มีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อภาพการเติบโตของเศรษฐกิจในเขตเศรษฐกิจหลักของโลกอันได้แก่ สหรัฐฯ และจีน โดยในฝั่งของสหรัฐฯ ตลาดเริ่มไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดดอกเบี้ยตามที่ได้แจ้งไว้ใน Dot Plot ของการประชุมครั้งที่ผ่านมา ขณะที่จีนซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับที่สองของโลก เผชิญกับภาวะเงินฝืดหลังดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตยังคงหดตัวในเดือน ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา

รายงานฉบับล่าสุดของธนาคารโลก (World Bank) บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากสภาพอากาศหนาวเย็นฉับพลัน (Cold Snap) ในสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้อุปทานมีแนวโน้มตึงตัวขึ้น นอกจากนี้อุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับลดลง ภายหลังปริมาณการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานและจำนวนแท่นขุดเจาะปรับตัวลดลง ประกอบกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่ยังคงมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นได้เป็นระยะ

ทั้งนี้ ตลาดจับตาสภาพอากาศหนาวเย็นฉับพลัน (Cold Snap) ในรัฐนอร์ทดาโคตา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันขนาดใหญ่อันดับต้นของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตน้ำมันปรับลดลง 650,000 ถึง 700,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่า 50% ของกำลังการผลิตในสภาวะปกติ ขณะเดียวกันรายงานพยากรณ์อากาศบ่งชี้ว่าในช่วงปลายเดือน ม.ค. อุณหภูมิใน 48 รัฐตอนล่างของสหรัฐฯ จะอุ่นขึ้นกว่าปกติ ปัจจัยดังกล่าวกดดันต่อความต้องการใช้เชื้อเพลิงในเครื่องทำความร้อน

อุปทานน้ำมันของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ในเดือน ก.พ. 67 จะปรับตัวลดลง 0.12% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า การลดลงดังกล่าวถือเป็นการลดลง 5 เดือนติดต่อกัน ขณะที่ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 12 ม.ค. ปรับตัวลดลง 2 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 619 แท่น และจำนวนแท่นขุดเจาะทั้งหมดยังต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 20% หรือคิดเป็นจำนวนที่ลดลง 156 แท่น

ขณะเดียวกันยังต้องจับตา สถานการณ์ความขัดแย้ง ตะวันออกกลาง ภายหลังกลุ่มกบฏฮูตียังคงเดินหน้าโจมตีเรือเดินสมุทรในบริเวณพื้นที่ทะเลแดง

ด้านสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันในปี 2567 นี้จะปรับเพิ่มสู่ระดับ 1.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน และกลุ่มโอเปกคาดว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะปรับเพิ่มกว่า 2.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 12 ม.ค. 67 ปรับลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 429.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.3 ล้านบาร์เรล เป็นอีกปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุนตัวของตลาด

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles