ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่าวันที่ 6 พฤษภาคม 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 58.07 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.73% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 61.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.66%
สาเหตุจากนักลงทุนไม่มั่นใจในผลการเจรจาการค้าและภาษีอย่างเป็นทางการที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างรัฐมนตรีคลังสหรัฐกับรองนายกรัฐมนตรีจีนในวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคมนี้ที่เจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ท่ามกลางรัฐมนตรีคลังสหพันธ์กล่าวว่า การเจรจากับจีนในครั้งนี้เป็นการพูดคุยเริ่มต้นกับปัญหาการค้าและภาษี ไม่ใช่เป็นการเจรจาเพื่อต่อยอดใดๆ ขณะที่รองประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยว่า การเจรจาโครงการนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐกับอิหร่านมีผลที่เป็นไปได้ด้วยดีจนถึงขณะนี้ ซึ่งอาจนำไปสู่การทบทวนมาตรการคว่ำบาตรพลังงานกับอิหร่าน
เมื่อวันอังคารที่ 6 พฤษภาคมผ่านมา กลุ่มโอเปกพลัส เปิดเผยว่า สมาชิกทั้ง 8 ประเทศกลุ่มโอเปกนำโดยซาอุดิอาระเบียมีสตพลมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบขึ้นวันละ 411,000 บาร์เรลในเดือนมิถุนายนนี้ ปริมาณดังกล่าวสูงถึงเกือบ 3 เท่าจากที่ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นวันละ 140,000 บาร์เรล กลุ่มโอเปกพลัสมีแนวโน้มสูงที่จะเร่งเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของทั้งกลุ่ม ซึ่งจะส่งผลให้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ กำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกจะกลับขึ้นมาเป็นที่ระดับวันละ 2.2 ล้านบาท เนื่องจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันดิบมากที่สุดของกลุ่มโอเปกพลัสไม่พอใจที่สมาชิกบางประเทศ ได้แก่อิรัก และคาซัคสถาน ผลิตน้ำมันดิบมากกว่าจำนวนโควตาที่ไทยตกลงกันไว้ ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 12 เมษายน นี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอลล์ลง 30 สตางค์/ลิตร นับเป็นการปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกครั้งที่ 7 ต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 เป็นต้นมา ส่งผลเป็นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและกลุ่มแก๊สโซฮอลล์มีราคาขายถูกสุดใน 3 ปี 2 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ 20 มกราคม 2022 และน้ำมันดีเซลมีราคาขายถูกสุดใน 10 เดือน หรือตั้งแต่ 17 พฤษภาคม 2567