ตลาดซื้อขาย น้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 82.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.5% ส่งผลหยุดราคาปิดลง 3 วันติดกันรวม -2.47 หรือ -3.0% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 85.43 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.35 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.4% ส่งผลหยุดราคาปิดลง 4 วันติดกันรวม -2.77 หรือ -3.21%
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +2.1% และ +0.4% ตามลำดับ สิ้นสุดมิถุนายนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น +5.9% ส่งผลตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐ และเบร็นท์ อังกฤษ ปิดเพิ่มขึ้น +13.8% และ +12.1% ตามลำดับ
สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลงมากถึง 3.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่ประเมินว่าจะลดลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่โอกาสการหยุดยิงในฉนวนกาซามีมากขึ้น นอกจากนี้ ความกังวลที่มีต่อพายุเฮอริเคนชื่อว่า แบร์เรียล ในอ่าวเม็กซิโก พบว่าส่งผลน้อยลงต่อโอกาสที่จะเกิดการสะดุดหยุดลงในการหยุดผลิตน้ำมันดิบชั่วคราวในอ่าวเม็กซิโก
อย่างไรก็ตาม เริ่มต้นฤดูร้อนในสหรัฐอเมริกาส่งผลให้คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3% ที่สำคัญ สัญญาซื้อขายราคาน้ำมันดีเซลและเบนซินล่วงหน้าพุ่งปิดสูงสุดในรอบ 10 และ 8 สัปดาห์ตามลำดับ กลุ่มโอเปกพลัส เปิดเผยว่า ความต้องการใช้น้ำมันดิบโลกยังไม่มีจุดสูงสุดในระยะกลางหรือระยะยาว พร้อมปรับคาดการณ์ว่า ปริมาณบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 116 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2045 และสำนักบริหารจัดการข้อมูลพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ อีไอเอ ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกปี 2024 เป็นวันละ 1.10 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่วันละ 900,000 บาร์เรล
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันครั้งสุดท้ายมีผลวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง 30 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาครั้งแรกในรอบการขึ้นราคามาทั้งหมด 5 ครั้งต่อเนื่อง ในเกือบ 3 สัปดาห์ผ่านมา หรือตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2567 ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่ถูกที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมผ่านมา