ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่าวันที่ 3 มีนาคม 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 68.37 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.59 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.84% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2024 หรือในรอบเกือบ 3 เดือน และส่งผลราคาปิดร่วงลง 2 วันติดกันรวม -1.98 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.84%
ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 71.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.19 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.6% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2024 หรือในรอบเกือบ 3 เดือน และส่งผลราคาปิดร่วงลง 2 วันติดกันรวม -2.05 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.76%
ในเดือนกุมภาพันธ์ ราคาน้ำมันดิบรายเดือนทั้งสองตลาดสำคัญปิดลดลงเป็นเดือนแรกใน 3 เดือนผ่านมา หรือนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 นอกจากนี้ ส่งผลเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ปิดลดลงสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน ในปี 2024 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดสุทธิลดลง 3% เมื่อเทียบกับปี 2023 ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ มีราคาปิดสุทธิเสมอตัวกับในปี 2023
สาเหตุจากกลุ่มโอเปกพลัสเตรียมกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป ในปัจจุบันกลุ่มโอเปคพลัสรถกำลังการผลิตลงถึงวันละ 5.85 ล้านบาร์เรล ซึ่งคิดเป็น 5.7% ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลก โดยทำการลดการผลิตมาตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐกำลังพิจารณาลดระดับความรุนแรงในการใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันดิบกับรัสเซียหลังจากผู้นำสูงสุดสหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณชัดเจนในการฟื้นความสัมพันธ์กับรัสเซีย รวมถึงความพยายามในการแก้ปัญหาสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียที่กินเวลามานานถึง 3 ปี
นอกจากนี้ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบขาวในคืนผ่านมาว่า มาตรการเก็บภาษีสูงขึ้นอีก 25% กับสินค้านำเข้าจากประเทศแคนาดา และเม็กซิโก และมาตรการเก็บภาษีขึ้นอีก 10% กับน้ำมันดิบจากประเทศแคนาดา มีผลตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของเช้าวันอังคารที่ 4 มีนาคม 2025 ตามวันและเวลาในสหรัฐอเมริกา หรือตรงกับเวลา 24.01 น. ของเช้าวันพุธที่ 5 มีนาคม 2025 ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 30-40 สตางค์/ลิตร นับ เป็นการปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกครั้งแรกในรอบ 9 วันผ่านมา ส่งผลเป็นราคาขายปลีกต่ำสุดใน 3 สัปดาห์กว่า หรือตั้งแต่ 5 กุมภาพันธ์ 2024