ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 27 มิถุนายน 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 65.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.28 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.4% ส่งผลราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +1.10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.75% เมื่อวันพุธที่ 25 มีราคาปิดต่ำสุดในรอบ 20 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายนผ่านมา ส่งผลหยุดราคาน้ำมันดิบปิดลง 3 วันติดต่อกันรวม -9.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -13.48% เมื่อวันจันทร์ผ่านมา ราคาปิดดำดิ่ง -5.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -7.20%
ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ผ่านไป ราคาสูงสุดระหว่างวันพุ่งกระฉูดแตะ 77.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือกว่า +14% ไม่เพียงทำสถิติราคาสูงสุดในรอบเกือบ 5 เดือน หรือตั้งแต่ 21 มกราคมผ่านมา แต่ยังทำสถิติส่วนต่างราคาพุ่งทะยานมากที่สุดในรอบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2022 ที่รัสเซียเริ่มต้นเปิดโจมตีและรุกรานประเทศยูเครน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดต่ำสุดในรอบ 4 ปี 1 เดือนหรือตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2021 ย้อนไปเมื่อวันศุกร์ที่ 4 เมษายน มีราคาดิ่งต่ำสุดระหว่างวันแตะที่ระดับ 60.45 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาต่ำสุดระหว่างวันในรอบ 4 ปี ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดี 3 เมษายน ราคาปิดดิ่งลง -6.64% ทำสถิติเป็นราคาปิดน้ำมันดิบในแง่เปอร์เซ็นต์ที่ดำดิ่งเลวร้ายที่สุดตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2022 หรือในรอบ 2 ปี 7 เดือน
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 67.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.04 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.1% ส่งผลราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +0.63 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.97% เมื่อวันพุธที่ 25 มีราคาปิดต่ำสุดในรอบ 15 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนผ่านมา เฉพาะ 2 วันผ่านไป หรือ 23-24 มิถุนายน ราคาน้ำมันดิบดิ่งแรงรวม -13.30% นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบปิดลง 3 วันติดต่อกันรวม -11.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -15.63 % เมื่อวันจันทร์ผ่านมา ราคาปิดดำดิ่ง -5.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -7.20% ในแง่เปอร์เซนต์ ส่งผลเป็นราคาน้ำมันดิบที่ดำดิ่งในหนึ่งวันมากที่สุดในรอบสองปี 10 เดือนหรือนับตั้งแต่สิงหาคมปี 2022 เป็นต้นมา
ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ผ่านไป ราคาสูงสุดระหว่างวันพุ่งกระฉูดแตะ 78.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือกว่า +13% ไม่เพียงทำสถิติราคาสูงสุดในรอบเกือบ 4 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ 27 มกราคมผ่านมา แต่ยังทำสถิติส่วนต่างราคาพุ่งทะยานมากที่สุดในรอบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2022 ที่รัสเซียเริ่มต้นเปิดโจมตีและรุกรานประเทศยูเครน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ทำสถิติราคาปิดต่ำสุดในรอบ 4 ปี หรือตั้งแต่มีนาคม 2021 เป็นต้นมา ย้อนไปเมื่อวันศุกร์ที่ 4 เมษายนมีราคาดิ่งต่ำสุดระหว่างวันแตะที่ระดับ 64.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาต่ำสุดระหว่างวันในรอบ 4 ปี ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดี 3 เมษายน ราคาปิดดิ่งลง -6.42% ทำสถิติเป็นราคาปิดน้ำมันดิบในแง่เปอร์เซ็นต์ที่ดำดิ่งเลวร้ายที่สุดตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2022 หรือในรอบ 2 ปี 8 เดือน
สิ้นสุดเมษายน ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ และเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ร่วงลง -18% และ -15% ตามลำดับ ส่งผลทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายเดือนและในแง่เปอร์เซ็นต์ที่ปิดต่ำสุดในรอบ 3 ปี 5 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2021 เป็นต้นมา
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งปิด -12% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ปิดดำดิ่งมากที่สุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน และหยุดราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ปิดเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ก่อนหน้านี้ ทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ดำดิ่งเลวร้ายสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง หรือตั้งแต่กลางปี 2023 เป็นต้นมา
สาเหตุจากผู้แทนจาก 4 ประเทศในกลุ่มโอเปกพลัส เปิดเผยว่า อาจตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบขึ้นวันละ 411,000 บาร์เรลในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากได้มีมติให้เพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมแล้ว หากเป็นจริง จะเป็นการปรับขึ้นกำลังการผลิตเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ คาดว่าในเดือนสิงหาคมนี้จะเพิ่มขึ้นวันละ 410,000 บาร์เรล และธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นวันละ 411,000 บาร์เรลในแต่ละเดือนรวมกำลังการผลิตน้ำมันดิบขึ้นแตะวันละ 2.2 ล้านบาร์เรลภายในตุลาคมนี้
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่าความต้องการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเพียงเบาบาง ส่งผลทำสถิติน้อยที่สุดในรอบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา หรือนับตั้งแต่วิกฤตการณ์โรคระบาด โควิด-19 สาเหตุจากความกังวลในสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของสงครามการค้า และสงครามภาษี
นอกจากนี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่า ระดับอัตราภาษีนำเข้าที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศมานั้นอยู่ในอัตราที่เพิ่มสูงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเติบโตในลักษณะลดน้อยลงจากนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในระยะใกล้นี้ และอาจทำให้เป้าหมายดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะห่างไกลออกไป
เมื่อรวมปัจจัยกลุ่มโอเปกพลัสกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตเร็วกว่าที่กำหนดไว้ ทำให้ในเดือนเมษายนนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกร่วงลงมากถึง -13% แล้ว ด้านธนาคารยูบีเอส เอจี เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ จะลดลงมาเคลื่อนไหวระหว่าง 40-60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ถ้าหากเศรษฐกิจสหรัฐเกิดภาวะถดถอย และเศรษฐกิจจีนชะลอตัวอย่างรุนแรง
กลุ่มโอเปกพลัสปรับลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2025 ครั้งใหม่ ซึ่งนับเป็นการปรับลดตัวเลขดังกล่าวเป็นครั้งที่ 6 ต่อเนื่อง สำหรับในปีนี้ ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจากเดิมที่ระดับ 1.61 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ในปี 2025 กลุ่มโอเปกพลัสปรับลดตัวเลขคาดการณ์ใช้น้ำมันดิบของจีนจากเดิมจะเพิ่มขึ้นวันละ 580,000 บาร์เรล ลงมาอยู่ที่เพิ่มขึ้นเพียงวันละ 480,000 บาร์เรล หรือลดลง 100,000 บาร์เรลต่อวัน
ก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปกพลัสสร้างความประหลาดใจอย่างเกินความคาดหมายด้วยการมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบถึงวันละ 411,000 บาร์เรล จากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มที่ระดับวันละ 135,000 บาร์เรล โดยให้มีผลในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตเร็วขึ้นกว่าระยะเวลาเดิม ในปัจจุบันกลุ่มโอเปกพลัสลดกำลังการผลิตลงถึงวันละ 5.85 ล้านบาร์เรล ซึ่งคิดเป็น 5.7% ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลก โดยทำการลดการผลิตมาตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา
ด้านสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออึเอ เปิดเผยการคาดการณ์ว่า ในปี 2025 จะเกิดภาวะตลาดน้ำมันดิบล้นตลาด หรือเกินความต้องการบริโภคที่ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ถ้ากลุ่มโอเปกพลัสมีมติเริ่มทยอยเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือนพฤษภาคมปี 2025 หากกลุ่มโอเปกพลัสยังคงมติลดกำลังการผลิตต่อเนื่องเมื่อถึงสิ้นไตรมาสที่ 1 ในปีหน้า ภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นมาเป็นวันละ 950,000 บาร์เรล
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 26 มิถุนายน เวลา 05.00 น. ราคากลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอลล์ -50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ หรือตั้งแต่ 22 พฤษภาคม และมีราคาขายต่ำสุดนับตั้งแต่ 20 มิถุนายน 2025 หรือใน 7 วัน