ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 13 มกราคม 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 77.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.32 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.67% เป็นราคาปิดหลุดจากสถิติราคาปิดสูงสุดใน 4 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2024 และส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +5.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +7.32% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 79.92 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.35% เป็นราคาปิดหลุดจากสถิติราคาสูงสุดใน 4 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2024 ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +4.85 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +6.30%
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดสำคัญปิด +5% และ +3.3% ตามลำดับ ในปี 2024 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดสุทธิลดลง 3% เมื่อเทียบกับปี 2023 ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ มีราคาปิดสุทธิเสมอตัวกับในปี 2023
สาเหตุจากสำนักจัดการข้อมูลพลังงานแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ USEIA เปิดเผยว่า คาดการณ์การบริโภคน้ำมันดิบสหรัฐอเมริกาจะคงที่วันละ 20.5 ล้านบาร์เรลในปีนี้ และปี 2026 ในขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 13.52 ล้านบาร์เรลในปี 2025 นี้ ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา ประกาศมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันดิบของก๊าซพรอม เนฟท์ ซี่งเป็นรัฐวิสาหกิจพลังงานใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซีย และเซอร์กัทเนฟเทก๊าซ รวมถึงกองเรือเงาขนส่งน้ำมันดิบจำนวน 183 ลำของประเทศรัสเซีย
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 15 มกราคมนี้ โดยขึ้นราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกครั้งแรกของปี 2025 และเป็นการขึ้นราคาลิตรละ 50 สตางค์ครั้งแรกและมากที่สุดในรอบเกือบ 10 เดือนผ่านมา หรือตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2024 ส่งผลเป็นราคาน้ำมันขายปลีกสูงสุดใน 13 วันผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2025