นายฐากูร ชาติสุทธิผล ผู้ร่วมก่อตั้ง FoodStory และหัวหน้าฝ่ายนวัตกรรม POS, LINE MAN Wongnai เปิดเผยว่าร้านอาหารทุกกลุ่มตลาดในไทยได้รับผลกระทบ ไม่ใช่เพียงแค่ร้านอาหารมีชื่อดังเสียงโด่งดัง หรือร้านอาหารกลุ่มคุณภาพและราคาสูงที่รู้จักกันดีว่าไฟน์ไดนิ่ง สาเหตุจากกลุ่มลูกค้าระดับบนมีรายได้ลดลงมากถึง 60–70% ธุรกิจหลายกลุ่มมียอดขายลดลงถึงครึ่งหนึ่ง
ข้อมูลจากระบบการจัดการข้อมูลร้านอาหารพีโอเอส หรือ POS ของฟู้ดสตอรี่ หรือ Food Story พบว่า ปี 2023 ร้านอาหารในไทยมียอดขายเฉลี่ยต่อเดือนที่ 186,000 บาท ถัดมาในปี 2024 ยอดขายดังกล่าวลดลงมาเหลือที่ 154,000 บาท หรือตกต่ำถึง 14% ด้านร้านเปิดใหม่ในครึ่งปี 2023 พบว่ามีจำนวนเกือบ 100,000 ร้าน แต่เมื่อมาถึงปี 2024 จำนวนร้านอาหารลดลงเหลือเพียง 63,000 ร้าน และในปี 2025 นี้ คาดว่าจะลดลงอีกมากถึง 30% มาเหลือเพียง 44,000 ร้าน
นอกจากนี้ ร้านอาหารที่เปิดใหม่ในปีนี้ ปรากฎว่าเมื่อเวลาคล้อยหลัง 12 เดือน จะมีร้านอาหารเพียง 50% ที่ยังอยู่รอด ที่น่าสนใจ คือ ภายใน 3 ปี ตัวเลขรอดอยู่เพียง 1 ใน 3 เท่านั้น หรือ 33% เท่านั้น
นอกจากยอดขายของร้านอาหารจะตกต่ำลงมา สิ่งที่เป็นหัวใจของร้านอาหาร คือต้นทุนการทำร้านอาหารปรับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ในปี 2024 ที่ผ่านมา ราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้นถึง 25% และค่าแรงพนักงานปรับขึ้นอีก 5% ผู้ประกอบการร้านอาหารจึงต้องปรับตัวมากขึ้น ขณะเดียวกัน กระเป๋าผู้บริโภคลดลงชัดเจน และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยกลับมีจำนวนน้อยลง ทำให้ต้องบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น