นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ภาพรวมการเคลื่อนไหวของทองคำปี 2567 จะยังคงเป็นขาขึ้น และมีโอกาสทำนิวไฮ เนื่องจากปีนี้มีปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำมีมากกว่าปัจจัยลบ โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐเข้าสู่วงจรขาลง อีกทั้งความกังวลการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งสอดคล้องกับทางด้านเจพีมอร์แกนที่คาดการณ์ว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 โดยจะพุ่งทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ระหว่างทางจะมีแรงเทขายทำกำไรสลับออกมา นักลงทุนจึงต้องซื้อขายอย่างระมัดระวัง
สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ามาลงทุนทองคำในปีนี้แต่กังวลว่าราคาทองคำยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงนั้น มองว่าสามารถเข้ามาลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นได้ โดยรอเข้าซื้อจังหวะที่ราคาปรับตัวลงมาทดสอบบริเวณแนวรับสำคัญ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับถัดไป 1,982 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 2,071-2,089 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่ทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ประเมินแนวรับที่บริเวณ 32,800-33,100 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านพิจารณาที่โซน 34,300-34,600 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณด้วยค่าเงินบาท 34.95 บาทต่อดอลลาร์ ณ วันที่ 9 มกราคม 2567 เวลา 15.35น.)
ทั้งนี้ใน ปี 2567 เป็นปีที่สร้างปรากฎการณ์ใหม่สำหรับตลาดทองคำ เนื่องจากมีนักลงทุนรุ่นใหม่เข้ามาลงทุนในทองคำมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยล่าสุดสัดส่วนนักลงทุนทองคำออนไลน์ พบกว่ามีอายุต่ำกว่า 40 ปี มากขึ้นเกือบครึ่ง
อย่างไรก็ดีแม้ว่านักลงทุนรุ่นใหม่จะสนใจลงทุนทองคำแบบซื้อ – ขาย เล่นรอบ แต่ก็มีบางส่วนที่ต้องการซื้อทองคำกายภาพเพื่อนำไปถือครองไว้ หรือมอบเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน เป็นต้น